หอการค้าไทย-จีนเผยสินค้าจีนที่เข้ามาแชร์ตลาดในไทย เนื่องจากจีนเกิดโอเวอร์ซัพพลายโดยเฉพาะ ภาคอสังหาฯ รวมถึงปัญหาภูมิรัฐศาสตร์สหรัฐและยุโรปทำให้สินค้ามาขายอาเซียนเพิ่ม รวมถึงไทยแต่จีนก็เป็นแหล่งวัตถุดิบที่ไทยนำเข้ามาผลิตแล้วสร้างรายได้กลับประเทศ ทำใจบางสินค้าไทยต้นทุนสู้ไม่ได้ รวมถึงเทคโนโลยีต้องปรับตัวลดผลิตและนำเข้า พร้อมดึงมาตั้งโรงงานร่วมทุนเพื่อให้จีนทำตลาด และหากเจาะตลาดจีนแค่ 1-2% ก็ถือว่ามากพอ มั่นใจความสัมพันธ์จะทำให้ไทยมีโอกาสส่งออกได้เพิ่มในอนาคต
นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน เปิดเผยถึงกรณีที่สินค้าจีนเข้ามาไทยว่า ขณะนี้สินค้าจีนเกิดการผลิตมากกว่าความต้องการหรือ Over Supply จากปัญหาของภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว รวมถึงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเช่น ถนน รถไฟอิ่มตัวพอสมควร ประกอบกับเกิดปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ทางสหรัฐและยุโรป ทำให้จีนส่งสินค้ามาขายในอาเซียน รวมถึงไทยมากขึ้น แต่ขอให้มองลงไปในรายละเอียดของสินค้านำเข้าแต่ละประเภท เพราะจีนถือเป็นแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญ ซึ่งหากใครนำเข้าวัตถุดิบจากจีนมาผลิตสินค้าและนำไปส่งออกก็จะสร้างรายได้ และกำไรกลับมาให้ประเทศเช่นกัน
“ เราต้องยอมรับว่าบางรายการสินค้าต้นทุนการผลิตเราสู้เขาไม่ได้จริงๆ เพราะต้นทุนต่ำมาก รวมถึงบางรายการก็มีเทคโนโลยีที่ดีกว่าแนวทางแก้ไขปัญหาสำคัญที่เราพยายามผลักดันคือ ผู้ผลิตไทยอาจจำเป็นต้องปรับโครงสร้างลดการผลิตและหันนำเข้า เปลี่ยนคู่แข่งเป็นคู่ค้าเพราะเขามีต้นทุนที่ต่ำกว่า และทำการตลาดที่ดีกว่า รวมถึงการดึงเข้ามาเป็นพันธมิตรที่ไทย ก็ทำให้ไทยได้เปรียบในการเข้าไปทำตลาดในจีนโดยจับมือตั้งโรงงานในไทย สิ่งที่เราจะได้รับ มีทั้งรายได้จากค่าที่ดิน การจ้างงานและการถ่ายทอดเทคโนโลยี ขณะเดียวกันก็อย่ากังวล ไทยมีกฎหมายที่ดูแลธุรกิจต่างด้าว ที่เราถือหุ้นสัดส่วน 51% จีนถือหุ้น 49% อย่างไรก็ได้ประโยชน์ เพราะว่าเราสามารถเข้าตลาดของเขาได้มากขึ้น และได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ไทยเองก็สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ เพราะเมื่อมองอีกด้านไทยมีโอกาสทำตลาดในจีนซึ่งมีประชากร 1,400 ล้านคน ถ้าไทยเจาะตลาดจีนได้เพิ่มขึ้น 1-2% ซึ่งถือว่าไทยเก่งแล้ว และหากไทยและจีนมีความสัมพันธ์กันในระยะยาว เชื่อว่าไทยจะสามารถผลักดันการส่งออกได้มากขึ้น เพราะภูมิภาคต่างๆ ในจีนเทียบกับประเทศไทยได้ 20 ประเทศ จีนนับได้ว่าเป็นแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญของไทย หากมีการนำเข้ามาผลิตและส่งออกไปก็จะบันทึกเป็นกำไรกลับมาที่ประเทศไทย
“ไทยจีนเตรียมนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติครั้งที่ 7 ซึ่งจะจัดในวันที่ 5-10 พฤศจิกายน 2567 ที่นครเซี่ยงไฮ้ โดยคาดหวังว่างานนี้จะสร้างโอกาสให้กับสินค้าไทยให้สามารถขยายเข้าไปสู่ตลาดจีนได้มากขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่เคยมีการนำนักธุรกิจเข้าร่วมงานครั้งก่อน ทำให้มีเงินสะพัดมากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งในครั้งนี้เรามุ่งที่จะนำกลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารออกไปขยายตลาดเพราะว่าเป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพ เป้าหมายจำนวน 50 บูท” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว