ดัชนีหุ้นไทยปิดวันนี้ลง 4.85 จุด ดัชนียังไม่หลุด 1,000 จุด สารพัดปัจจัยรอบด้านฉุด โดยเฉพาะความไม่แน่นอนในตะวันออกกลาง

ดัชนี SET หุ้นไทย ปิดที่ 1,062.78  จุด ลดลง 4.85 จุด หรือ -0.45%  ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 32,506.99  ล้านบาท  ทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,067.88 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,053.79 จุด 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่

1.ADVANC ราคาปิด 274.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ 1.86% มูลค่าซื้อขาย 2,227.37 ล้านบาท

2.PTTEP ราคาปิด 111.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.91% มูลค่าซื้อขาย 1,780.67 ล้านบาท

3.TRUE ราคาปิด 10.40 บาท คงที่ 0.00 บาท หรือ 0.00% มูลค่าซื้อขาย 1,727.60 ล้านบาท

บล.พาย ระบุว่าตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงจากแรงกดดันปัจจัยรอบด้านทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปัจจัยต่างประเทศ สถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางตึงเครียดมากขึ้น หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ตัดสินใจเข้าไปมีส่วนร่วมในสงคราม ด้วยการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่าน และยังมีกระแสข่าวว่าอิหร่านอาจปิดช่องแคบฮอร์มุซ ทำให้เกิดความกังวล เนื่องจากเป็นเส้นทางลำเลียงน้ำมันและก๊าซประมาณ 20% ของโลก อย่างไรก็ตามกระแสข่าวดังกล่าวยังไม่เป็นทางการ ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นประมาณ 2% ไม่ได้พุ่งแรงมาก สะท้อนว่าตลาดมีท่าทีระมัดระวัง

ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ความขัดแย้งประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชากดดันบรรยากาศการลงทุน อย่างไรก็ตามสัดส่วนรายได้ของไทยจากการค้ากัมพูชาไม่ได้มากนัก

ด้านบล. ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลง โดย ดัชนีหุ้นไทย ทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,053 จุด ซึ่งใกล้เคียงกับแนวรับที่วิเคราะห์ไว้ที่ 1,050 จุด การปรับตัวลงครั้งนี้เป็นไปตามคาด เนื่องจากตลาดมีการกระแทกลงมาทดสอบจุดต่ำเดิมที่เคยเกิดขึ้นช่วงต้นเม.ย.ที่ระดับ 1,056 จุด ก่อนจะมีการดึงตัวกลับขึ้นมาบ้างในช่วงบ่าย ซึ่งการลดลงของตลาดหุ้นไทยวันนี้มีสาเหตุหลักมาจากความไม่แน่นอนในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะประเด็นความเสี่ยงปิดช่องแคบฮอร์มุซที่อาจส่งผลต่อราคาน้ำมัน รวมทั้งมาตรการควบคุมของภาครัฐยังทำให้ตลาดขาดความเชื่อมั่น โดยเฉพาะการใช้ Circuit Breaker ที่ทำให้หุ้นหลายตัวติดฟอร์มลบ 15%

สำหรับวันพรุ่งนี้ (24 มิ.ย.) ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาคือสถานการณ์ในตะวันออกกลางและผลกระทบต่อราคาน้ำมัน หากมีการปิดช่องแคบฮอร์มุซจริง คาดว่าราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นแรงและตลาดจะมีความกังวลเพิ่มขึ้น แต่หากสถานการณ์ไม่รุนแรงเท่าที่คาด ตลาดอาจมีโอกาสฟื้นตัวได้ ในระยะสั้น ตลาดยังคงแกว่งในกรอบและยังอยู่ในโซนลบ

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles