ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่าวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 71.00 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.39 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.55% ส่งผลหยุดราคาปิดลดลง 3 วันติดกันรวม -2.55 หรือ -3.53% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 74.66 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.37 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.5% ส่งผลหยุดราคาปิดลดลง 2 วันติดกันรวม -1.91 หรือ -2.49%
ในสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันดิบทั้งสองตลาดสำคัญปิด -2% และ -3% ตามลำดับ ส่งผลเป็นราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ปิดลดลงสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ในปี 2024 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดสุทธิลดลง 3% เมื่อเทียบกับปี 2023 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ มีราคาปิดสุทธิเสมอตัวกับในปี 2023
สาเหตุจากประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในคืนที่ผ่านมาว่าได้อนุมัติมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันดิบและการส่งออกน้ำมันดิบชุดใหม่กับประเทศอิหร่าน ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวแสดงมุมมองเศรษฐกิจบนเวทีการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum ที่เมืองดาวอส สวิสเซอร์แลนด์ เรียกร้องให้ซาอุดิอาระเบีย และกลุ่มโอเปกพลัสลดราคาน้ำมันดิบ
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ผ่านมากลุ่มโอเปกพลัสมีมติคงเดิมกับการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่อเนื่อง นอกจากนี้ สหรัฐเลื่อนการเก็บขึ้นภาษี 25% กับแคนดาและเม็กซิโกเป็นเวลา 30 วัน
ทั้งนี้ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 40-50 สตางค์/ลิตร ไม่เพียงเป็นการลดราคาน้ำมันขายปลีกครั้งที่ 4 ของปี 2025 แต่ยังเป็นการลดราคาครั้งที่ 2 ต่อเนื่อง ส่งผลเป็นราคาขายปลีกต่ำสุดใน 3 เดือน หรือตั้งแต่ 5 พฤศจิกายน 2024