ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา หรือ BOA ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชั้นนำระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ได้ปรับขึ้นตัวเลขราคาเฉลี่ย น้ำมันดิบ ทั้งตลาดน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ในปี 2024 นี้มาเป็น 81 และ 86 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลตามลำดับ นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่า ในฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงในสหรัฐ หรือช่วงกรกฎาคมถึงกันยายนนี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะเคลื่อนไหวขึ้นสูงสุดที่ 95 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา เปิดเผยว่าในช่วงไตรมาสที่ 2 ถึงไตรมาสที่ 3 ตลาดน้ำมันดิบโลกจะมีปริมาณน้ำมันดิบขาดแคลนวันละ 450,000 บาร์เรล
สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกามีพัฒนาการในทางบวก แม้อาจจะมีโอกาสชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป มากกว่าที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรงและมีความยืดหยุ่นสูงในการต้านทานภาวะอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ทรงตัวสูงในรอบ 23 ปี นอกจากนี้ กลุ่มโอเปกพลัสมีมติคงนโยบายลดกำลังผลิตน้ำมันดิบไว้ในปริมาณโควต้าเดิมต่อเนื่องที่วันละ 2.2 ล้านบาร์เรลในไตรมาสที่ 2 นี้ รวมถึงปัจจัยความขัดแย้งและตึงเครียดรุนแรงในภูมิภาคตะวันออกกลาง และยุโรปที่เกี่ยวข้องระหว่างรัสเซียกับยูเครน
รัฐบาลรัสเซียประกาศคำสั่งให้บริษัทผลิตน้ำมันทุกแห่งลดกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อให้ตรงกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ว่าจะผลิตน้ำมันที่วันละ 9 ล้านบาร์เรลในไตรมาสที่ 2 ขณะที่โรงกลั่นน้ำมันในรัสเซียต้องสูญเสียกำลังการผลิตลงถึงครึ่งหนึ่งของปกติหลังจากใน 2-3 วันผ่านมา ยูเครนใช้โดรนติดระเบิดยิงโจมตีโรงกลั่นน้ำมันสำเร็จรูปหลายแห่งในรัสเซีย ทำให้กำลังการผลิตน้ำมันสำเร็จรูปหดหายถึง 7%