ตลาดหุ้นสหรัฐปิดดำดิ่งหนัก ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดิ่งเหวเฉียด -700 จุด ปิดหลุด 40,000 จุดครั้งใหม่ ดัชนีหุ้นนาสแดคดำดิ่งกว่า -500 จุด เอ็นวีเดียชี้ต้นทุนรายไตรมาสพุ่งกว่า 1.8 แสนล้านบาท สหรัฐควบคุมส่งออกไมโครชิปไปจีน

ตลาดหุ้น สหรัฐ ปิดดำดิ่งหนัก ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดิ่งเหวเฉียด -700 จุด ปิดหลุด 40,000 จุดครั้งใหม่ ดัชนีหุ้นนาสแดคดำดิ่งกว่า -500 จุด เอ็นวีเดียชี้ต้นทุนรายไตรมาสพุ่งกว่า 1.8 แสนล้านบาท สหรัฐควบคุมส่งออกไมโครชิปไปจีน

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 39,669 จุด -699 จุด หรือ -1.73% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,275 จุด -120 จุด หรือ -2.24% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 16,307 จุด -516 จุด หรือ -3.07% ส่งผลดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดลดลง 2 วันติดกันรวม -854 จุด -129 จุด และ -524 จุดตามลำดับ

สาเหตุจากราคาหุ้นเอ็นวีเดีย ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตเซมิคอนด็อคเตอร์ใช้งานกับเทคโนโลยีเอไอมีราคาดำดิ่งลงมากถึง -6.9% อย่างรุนแรงส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีตัวอื่นๆลงอย่างหน้าตาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาหลังจากเอ็นวีเดียยอมรับว่ารัฐบาลสหรัฐจำกัดการส่งออกไมโครชิปรุ่น H20 ไปยังประเทศคู่ค้าหลายแห่งรสมทั้งจีน และมีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นจากมาตรการนำเข้าภาษี ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายรายไตรมาสมากถึง 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 187,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ นายเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเติบโตในลักษณะลดน้อยลงนโยบายการค้าของรัฐบาลสหรัฐจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อในระยะใกล้นี้ และอาจทำให้เป้าหมายดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะห่างไกลออกไป นักลงทุนมีความกังวลในความชัดเจนของการประกาศมาตรการภาษีเซมิคอนดักเตอร์ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้

ด้านธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ลดเป้าหมายอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในปี 2025 นี้ลงจากเดิมที่ 2.4% มาเหลือเพียง 1.7% นับเป็นมุมมองตัวเลขจีดีพีสหรัฐที่ลดต่ำลงจากภาพส่วนใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีครึ่ง

ผลสำรวจเกี่ยวกับมุมมองภาวะเงินเฟ้อสหรัฐอเมริกา พบว่าตัวเลขดังกล่าวในช่วง 5 ปี ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.5% ทำสถิติมุมมองเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีหรือนับตั้งแต่เมษายนปี 1995 เป็นต้นมา และในช่วง 1 ปี ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4.3% ทำสถิติมุมมองเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบ 1 ปี 3 เดือน หรือนับตั้งแต่พฤศจิกายนปี 2023 เป็นต้นมา

ทั้งนี้ สิ้นสุดปี 2024 พบว่า ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง พุ่งสูง +13%, +23% และ +29% ตามลำดับ โดยเฉพาะ ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติผลตอบแทนดัชนีหุ้นปิดบวกสูงกว่า 20% เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles