ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 46,602 จุด -91 จุด หรือ -0.20% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 6,714 จุด -25 จุด หรือ -0.38% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 22,788 จุด -153 จุด หรือ -0.67% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 หยุดขึ้น 7 วันทำการติดต่อกัน
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดเดือนกันยายน +1.7% และในไตรมาส 3 พุ่ง 5% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดเดือนกันยายน +3.1% และในไตรมาส 3 พุ่ง 7.4% และดัชนีหุ้นนาสแดคปิดเดือนกันยายน +5.3% และในไตรมาส 3 พุ่ง 10.9%
สาเหตุจากนักลงทุนเทขายหุ้นบริษัทออราเคิล หลังจากมีรายงานของนักวิเคราะห์ประเมินว่ากำไรที่ทำได้จากธุรกิจประเภทคลาวด์ของออราเคิลน้อยเกินไป จากที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน นอกจากนี้บริษัทออราเคิลยังอาจจะสูญเสียเงิน จากการเปิดทางให้บริษัทเอ็นวีเดียถือหุ้นลงทุน
นักลงทุนได้รับการเตือนว่าภาวะการลงทุนหุ้นของบริษัทที่อยู่ในธุรกิจประเภทปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ กำลังสุ่มเสี่ยงเกิดภาวะฟองสบู่ ซึ่งอาจทำให้กลายเป็นวิกฤติคล้ายคลึงกันในยุคดอทคอมที่ล่มสลายในช่วงปลายปี 1990 ขณะที่ปัจจัยการเมืองในสหรัฐอเมริกาส่งผลให้ภาวะรัฐบาลชัตดาวน์มาถึงครบ 7 วัน และมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อเข้าสู่สัปดาห์ที่สองต่อเนื่อง ซึ่งมีผลกระทบต่อการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ และธุรกิจของสหรัฐอเมริกาที่ใช้ในการประเมินทิศทางการลงทุนในตลาดทุนของสหรัฐอเมริกา