ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 38,686 จุด +574 จุด หรือ +1.51% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,277 จุด +42 จุด หรือ +0.80% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 16,735 จุด -2 จุด หรือ -0.01% ส่งผลหยุดดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดำดิ่ง 3 วันติดกันรวมกว่า 930 จุด
ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดสวนทางกัน -0.98%, -0.5% และ -1.1% ตามลำดับ ส่งผลหยุดดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และนาสแดคทำสถิติดัชนีหุ้นรายสัปดาห์ปิดเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบเกือบ 3 เดือน หรือตั้งแต่กุมภาพันธ์เป็นต้นมา ในเดือนพฤษภาคม พบว่าดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดสวนทางกัน +2.3%, +4.8% และ +6.8% ตามลำดับ ทั้ง 3 ดัชนีหุ้นปิดขึ้น 6 เดือนติดต่อกัน
สาเหตุจากท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกอ่อนค่า และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นอายุ 10 ปี ปิดลดต่ำลง แต่นักลงทุนเพิ่มความกังวลในโอกาสลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ โดยเฉพาะการประกาศตัวเลขรายได้การบริโภคส่วนบุคคลขาวอเมริกันเดือนเมษายนที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ ซึ่งตัวเลขสำคัญเกี่ยวกับทิศทางเงินเฟ้อในสหรัฐ
ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ของเฟดในการประชุมเดือนกันยายนลดลงมาอยู่ที่ 59% จากเดิมที่ระดับ 65.7%
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ทำสถิติทั้งในรายไตรมาส และรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 โดยในรายไตรมาสนั้น ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +7.4%, +10.2% และ +9.1% ตามลำดับ ส่งผลดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 และดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2021 สอดรับกับรายเดือน ปิดเพิ่มขึ้น +2.1%, +3.1% และ +1.8% ตามลำดับ