ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 43,828 จุด -86 จุด หรือ -0.20% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 6,051 จุด -0.16 จุด หรือ -0.00% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 19,926 จุด +23 จุด หรือ +0.12% ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดลดลง 7 วันทำการติดกัน ทำสถิติยาวนานที่สุดในรอบ 4 ปี หรือตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา
ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น -1.8%, -0.6% และ +0.3% ตามลำดับ ในเดือนพฤศจิกายนดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +7.5%, +5.0% และ +6.0% ตามลำดับ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติรายเดือนที่ดีที่สุดตั้งแต่ต้นปี 2024 นี้
สาเหตุจากนักลงทุนชะลอการลงทุน และลดความเสี่ยงลงเพื่อรอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาครั้งสุดท้ายของปีนี้ที่จะมีขึ้นในวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในภาพรวมของสหรัฐที่ยังมีความเสี่ยงต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยระยะสั้นต่อเนื่องโดยเฉพาะในปี 2025
ขณะที่ตัวชี้วัดโอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐอเมริกา พบว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งต่อไปวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ โอกาสที่ดอกเบี้ยจะปรับลง 0.25% อยู่ที่ 97% จากเดิมที่ 95%
