ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 46,397 จุด +81 จุด หรือ +0.18% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 6,688 จุด +27 จุด หรือ +0.41% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 22,660 จุด +68 จุด หรือ +0.31% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดเดือนกันยายน +1.7% และในไตรมาส 3 พุ่ง 5% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดเดือนกันยายน +3.1% และในไตรมาส 3 พุ่ง 7.4% และดัชนีหุ้นนาสแดคปิดเดือนกันยายน +5.3% และในไตรมาส 3 พุ่ง 10.9%
สาเหตุจากนักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กสหรัฐให้น้ำหนักกับการติดตามสถานการณ์การเมืองในสหรัฐอเมริกาที่มีความเสี่ยงสูงมากจะนำไปสู่ภาวะรัฐบาลยุติการให้บริการ หรือยุติการทำงานที่เรียกว่า Government Shitdown เนื่องจากการเจรจาหาข้อยุติงบประมาณรัฐบาลของรัฐสภาสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มสูงว่าจะไม่สามารถตกลงกันได้ทันเส้นตายก่อนเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 30 กันยายน 2025 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา
นักลงทุนมั่นใจในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นบริษัทเอ็นวีดีมีราคาพุ่งทะยานถึง 4% หลังจากที่ได้ประกาศการเข้าลงทุนด้วยมูลค่าสูงถึง 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในบริษัทโอเพ่นเอไอ (OpenAI) ซึ่งเป็นเจ้าของแชทจีพีที (Chat GPT) ซึ่งเป็นไปตามนโยบายและกลยุทธ์ด้านพันธมิตรธุรกิจศูนย์ข้อมูล หรือดาต้า เซ็นเตอร์