ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 40,861 จุด +124 จุด หรือ +0.31% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,554 จุด +58 จุด หรือ +1.07% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 17,395 จุด +369 จุด หรือ +2.17%
สาเหตุจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีกลายเป็นปัจจัยบวกในช่วงก่อนปิดตลาดหุ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยหุ้นบริษัทเอ็นวีเดียปรับขึ้น 8% หลังจากช่วงเปิดตลาดนั้น ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งดำดิ่งอย่างหนาตา ซึ่งเป็นผลจากตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคทั่วไปเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.2% ตามคาดการณ์ ทำให้ในแง่เทียบเดือนเดียวกันกับปีผ่านมานั้นเป็นเงินเฟ้อทั่วไปที่เพิ่มขึ้น 2.5% ซึ่งลดลงจากเดือนกรกฎาคม 0.4% และเป็นเงินเฟ้อทั่วไปที่ต่ำสุดในรอบ 3 ปี 6 เดือน หรือตั้งแต่กุมภาพันธ์ปี 2021 แต่เงินเฟ้อผู้บริโภคขั้นพื้นฐานในเดือนเดียวกันกับเพิ่มขึ้นเกินคาดหมายที่ 0.2% โดยเพิ่มขึ้น 0.3% ส่งผลให้นักลงทุนยังไม่มั่นใจกับโอกาสลดดอกเบี้ยระยะสั้นมากถึง 0.5% ของธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 17-18 กันยายนนี้ ในคืนนี้ นักลงทุนรอการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตเดือนสิงหาคม
ด้านตัวชี้วัดโอกาสปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงในเดือนกันยายนถึง 0.25% อยู่ที่ 85% จากเดิมที่ 66% และลดดอกเบี้ยดังกล่าวลง 0.50% มีโอกาสอยู่ที่ 15% จากเดิมที่ 34% ขณะที่ โอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงในธันวาคมอยู่ที่ 72% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระดับ 50%