ตลาดหุ้นสหรัฐพลิกร่วงหนัก ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พุ่งกว่า 700 จุดก่อนดิ่งแรงกว่า 300 จุด ปิดหลุด 46,000 จุด แห่ขายหุ้นกลุ่มเทคเอไอรอบใหม่ เตือนฟองสบู่ธุรกิจเอไอหนาหู นักลงทุนยังหวั่นลดดอกเบี้ยสหรัฐไม่ชัดเจนในธันวาคม

ตลาดหุ้น สหรัฐ พลิกร่วงหนัก ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พุ่งกว่า 700 จุดก่อนดิ่งแรงกว่า 300 จุด ปิดหลุด 46,000 จุด แห่ขายหุ้นกลุ่มเทคเอไอรอบใหม่ เตือนฟองสบู่ธุรกิจเอไอหนาหู นักลงทุนยังหวั่นลดดอกเบี้ยสหรัฐไม่ชัดเจนในธันวาคม

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 45,752 จุด -386 จุด หรือ -0.84% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 6,538 จุด -103 จุด หรือ -1.56% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 22,078 จุด -486 จุด หรือ -2.16% ที่สำคัญ การซื้อขายตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความผันผวนและรุนแรง โดยในช่วงระหว่างวัน ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พุ่งทะยานขึ้นสูงสุดถึง 718 จุด ก่อนที่จะถูกกระหน่ำเทขายลงอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งปิดตลาดสุดลดลงถึง -386 จุด ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดต่ำกว่าระดับ 46,000 จุด นอกจากนี้ดัชนีหุ้นนาสแดคปิดใกล้หลุดระดับ 22,000 จุด

สาเหตุจากนักลงทุนเกิดความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอครั้งใหม่ที่อาจเกิดภาวะฟองสบู่แตก ถึงแม้ว่าผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทเอ็นวีเดีย ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตไมโครชิพสำหรับเอไอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จะออกเข้าเป้าตามคาดการณ์ของตลาด แต่นักลงทุนกลับเทขายหุ้นบริษัทดังกล่าวอย่างหนาตา มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาหุ้นของบริษัทดังกล่าวในเดือนพฤศจิกายนตกต่ำมากถึง -10.8% และอาจกลายเป็นราคาหุ้นที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ เดือนมีนาคมที่ผ่านมาหรือในรอบ 8 เดือน นอกจากนี้ ส่งผลให้เกิดแรงกระทบต่อหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีอื่นๆมีราคาสุดต่ำลงตลอดทั้งวัน

ในขณะที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อัลฟาเบท ซึ่งเป็นเจ้าของกูเกิ้ลกล่าวว่าทุกบริษัทไม่สามารถหลุดพ้นผลกระทบที่จะได้รับจากภาวะฟองสบู่เอไอแตก รวมถึงรองประธานธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งเป็นธนาคารที่เป็นขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า มูลค่าของบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมเอไอจะเกิดภาวะการปรับฐานราคเข้าสู่ปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles