ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,387.27 จุด ปรับขึ้น 2.16 จุด หรือ +0.16% มูลค่าการซื้อขาย 42,027.58 ล้านบาท ดัชนีฟื้นตัวขึ้นได้เล็กน้อย โดยทำจุดต่ำสุด 1,383.66 จุด และทำจุดสูงสุด 1,392.46 จุด
3 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,148.49 ล้านบาท ปิดที่ 54.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
2. KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,118.03 ล้านบาท ปิดที่ 15.50 บาท ลดลง 0.40 บาท
3. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,751.34 ล้านบาท ปิดที่ 119.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
สำหรับตลาด SET 50 ปิด 845.18845.18 จุด ปรับ +0.67 จุด หรือ +0.08% มูลค่าการซื้อขาย 26,970.33 ล้านบาท และตลาด mai ปิดที่ 424.27 จุด ปรับ +5.33 หรือ +1.27% มูลค่าซื้อขาย 3,398.66 ล้านบาท
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวขึ้นได้เล็กน้อย เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก และได้แรงหนุนจากแรงซื้อเข้ามาในกลุ่ม CPALL, CPAXT, AOT, TOP, PTTGC จากผลประกอบการที่ออกมาดี และรับในเรื่องของการจ่ายเงินปันผล รวมถึงแนวโน้มผลประกอบการที่ยังมีการเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ ขณะที่เย็นนี้ก็จะมีการเปิดเผยผลประกอบการของ PTT, DELTA, GULF อีกทั้งยังได้แรงหนุนจากหุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า เช่น กลุ่มส่งออก อย่าง TU, ITC เป็นต้น
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดฯ น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยคืนนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น ยอดค้าปลีกเดือน ม.ค. หากออกมาแข็งแกร่งต่อเนื่อง จะหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีก และกดดันเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,380 จุด และแนวต้าน 1,395 จุด