คอยน์เก็คโค (CoinGecko) แพลตฟอร์มรายงานและซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดังแห่งหนึ่งของโลก รายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่าค่าเงินบิทคอยน์ซึ่งมีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซี ปิดดำดิ่งมากถึง -11% และค่าเงินอีเธอร์ ซึ่งมีมูลค่าตลาดใหญ่อันดับ 2 ในตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซี ปิดร่วงลงมากถึง -21% ส่งผลมูลค่าตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีทั้งหมดทรุดลงมากสุดถึง 270,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 9.7 ล้านล้านบาทใน 24 ชั่วโมงผ่านมา
คอยน์เมททริกซ์ (Coin Metrics) แพลตฟอร์มรายงานค่าเงินคริปโทเคอร์เรนซี รายงานว่า วันนี้ 5 สิงหาคม 2024 เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาสิงคโปร์ หรือตรงกับ 11.20 น. เวลาไทย ค่าเงินสกุลบิทคอยน์ ซึ่งมีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซี เคลื่อนไหวลดลงมาที่ระดับ 54,100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,947,600 บาทต่อบิทคอยน์ ร่วงลง -8.5% ส่งผลค่าเงินบิทคอยน์ดำดิ่งต่อเนื่องจากทั้งสัปดาห์ผ่านไปที่ทรุดหนักถึง -13.1% ทำสถิติเลวร้ายที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี หรือตั้งแต่แพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดังระดับโลก เอฟทีเอ็กซ์ ล่มสลายในปี 2021
สาเหตุจากบรรยกาศและสถานการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นในสหรัฐ และเอเชียเต็มไปด้วยแรงเทขายอย่างรุนแรงต่อเนื่อง สถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐเกิดความเสี่ยงครั้งใหม่หลังจากยอดตัวเลขจ้างงานชาวอเมริกันนอกภาคกรรมการเกษตรเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นแต่น้อยกว่าที่คาดหวังไว้มาก อัตราการว่างงานเดือนเดียวกันในสหรัฐพุ่งขึ้นแตะ 4.3% เป็นเดือนที่ 4 ติดกัน และมากสุดในรอบ 3 ปีกว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่าขึ้นรับปัจจัยเสี่ยงสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านที่อาจลุกลามใช้กำลังทางทหารครั้งใหม่
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2024 กองทุนอีทีเอฟสำหรับเงินบิทคอยน์ พบว่ามีเงินถอนออกจากกองทุนมากที่สุดในรอบ 3 เดือน รวมถึงนักลงทุนในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนทยอยลดลงทุนผงตอบแทนจากการซื้อขายสกุลเงินเยนโดยใช้วิธี เยน แครี่เทรด หลังจากธนาคารญี่ปุ่นขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมผ่านมา มีผลกระทบต่อการลงทุนในเงินคริปโทเคอร์เรนซีด้วย
ตลาดหุ้นสหรัฐตกต่ำย่ำแย่หนักเมื่อวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคมผ่านมา ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 39,737 จุด -610 จุด หรือ -1.51% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,346 จุด -100 จุด หรือ -1.84% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 16,776 จุด -417 จุด หรือ -2.43% โดยเฉพาะดัชนีหุ้นดาวโจนส์ดิ่งเหวลึกสุดระหว่างวันถึง -989 จุดในคืนผ่านมา ขณะที่ในเดือนสิงหาคม ซึ่งผ่านมาครบ 2 วันทำการ ยังพบว่า ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดร่วงแรง -3.6%, -4.0% และ -5.1% ตามลำดับ
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมีนาคม 2024 เงินบิทคอยน์ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 73,798 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,730,526 บาทต่อบิทคอยน์ สืบผลให้ในขณะนี้ ค่าเงินบิทคอยน์ดำดิ่งมากถึง -19,698 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 709,128 บาทต่อบิทคอยน์ หรือร่วงแรงกว่า -26.69% เข้าสู่ภาวะหมี หรือ Bearish Market เนื่องจากมีราคาดำดิ่งมากกว่า 20% จากสถิติราคาสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงวันนี้ 5 สิงหาคม ค่าเงินบิทคอยน์ยังคงให้ผลตอบแทนสูงถึง 23%