บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด ประเมินดัชนี หุ้นไทย สัปดาห์นี้ (19-23 ส.ค.)คาดว่าจะมีแนวรับที่ 1,290 และ 1,280 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,310 และ 1,330 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2567 ของไทย การประชุมกนง. สุนทรพจน์ของประธานเฟดในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รวมถึงถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ประเด็นการเมืองในประเทศ และทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ บันทึกการประชุมเฟด ดัชนี PMI เดือนส.ค. ยอดขายบ้านมือสองและยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนส.ค. ของจีน ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ค. ของยูโรโซนและญี่ปุ่น ตลอดจนดัชนี PMI เดือนส.ค.ของญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ
สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยร่วงลงแรงในระหว่างสัปดาห์จากประเด็นการเมืองในประเทศก่อนจะฟื้นตัวกลับมาได้ช่วงปลายสัปดาห์โดยที่หุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบในช่วงแรกแต่ร่วงลงช่วงกลางสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายของกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศเนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติถอดถอนนายกรัฐมนตรีส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศและเทขายหุ้นในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมโดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกจากความกังวลว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศอาจมีการเปลี่ยนแปลงและล่าช้าออกไป
อย่างไรก็ดีหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้ช่วงปลายสัปดาห์ตามทิศทางหุ้นภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลบางส่วนต่อประเด็นเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด ประกอบกับมีแรงหนุนจากประเด็นการเมืองในประเทศเพิ่มเติม หลังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น ส่งผลให้ช่วงท้ายสัปดาห์มีแรงซื้อคืนหุ้นทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์และไฟแนนซ์
เมื่อวันศุกร์ที่ 16 ส.ค. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,303.00 จุด เพิ่มขึ้น 0.46% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 42,752.59 ล้านบาท ลดลง 1.20% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 1.50% มาปิดที่ระดับ 316.67 จุด