นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสศค. ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลัง ยืนยันตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ที่ขยายตัวได้ 1.8% โดยเป็นตัวเลขที่หารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันแล้ว โดยเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/2566 ขยายตัวได้ 2.6% ไตรมาส 2/2566 ขยายตัว 1.8% ไตรมาส 3/2566 ขยายตัว 1.5% หากจะให้เศรษฐกิจไทยทั้งปีขยายตัวได้มากกว่า 2% นั้น ในไตรมาส 4/2566 จะต้องขยายตัวได้ราว 4-5% แต่ไม่มีสัญญาณดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะเติบโตได้เพียง 1.4% เท่านั้น
“ไตรมาส 4/66 ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าเศรษฐกิจจะโตทะลุ 4-5% แต่เราเห็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีมากกว่า เช่น การผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัวต่อเนื่อง ในเดือน พ.ย. ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม หดตัวที่ -4.7% ต่อปี เป็นการติดลบติดต่อกันเดือนที่ 14 และอุตสาหกรรมหดตัวต่อเนื่อง เช่น ยานยนต์หดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 23, คอมพิวเตอร์ หดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 15 ยางพาราและพลาสติก หดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 เป็นต้น โดย สศค. นำข้อมูลดังกล่าวมาสอบยันทุกทางแล้ว” นายพรชัย กล่าว
ส่วนปี 2567 กระทรวงการคลัง คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 2.8% (ช่วงคาดการณ์ 2.3-3.3%) โดยมีแรงขับเคลื่อนที่สำคัญจากภาคการส่งออกที่กลับมาฟื้นตัวได้ชัดเจนขึ้น ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน
พร้อมกันนี้ คาดว่าการส่งออกในปี 67 จะขยายตัวได้ 4.2% ส่วนการนำเข้า ขยายตัว 4% อัตราเงินเฟ้อทั่วไป อยู่ที่ 1% ดุลบัญชีเดินสะพัด เกินดุล 1 หมื่นล้านดอลลาร์ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ อยู่ที่ 33.5 ล้านคน คิดเป็นรายได้จากการท่องเที่ยว 1.48 ล้านล้านบาท
“เศรษฐกิจไทยปี 67 คาดว่าจะเติบโตได้ 2.8% โดยแรงขับเคลื่อนจะมาจากภาคการส่งออกที่จะกลับมาชัดเจนขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น และมีการจับจ่ายต่อหัวเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ภาคการต่างประเทศจะมีส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีนี้” นายพรชัย กล่าว
ส่วนกรณีเอกสารประมาณการเศรษฐกิจไทยที่หลุดไปก่อนหน้านี้ ว่า ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ปลัดกระทรวงการคลังรับทราบแล้ว โดยปลัดกระทรวงการคลังได้สั่งการให้ทำเอกสารชี้แจงตามระเบียบราชการ ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจ 1.8% ก็เป็นตัวเลขหนึ่งที่มาใช้พิจารณากัน มีการสอบยันข้อมูลว่าตัวเลขนี้ทำด้วยความรอบคอบ เพราะเป็นการปรับลดที่ค่อนข้างมากจากคาดการณ์ครั้งก่อน
“ไม่รู้ว่าเอกสารหลุดไปทางไหน ไม่รู้จริงๆ โดยในส่วนการทำงานของ สศค.นั้น ยืนยันว่าเรายังทำงานด้วยการยึดหลักวิชาการ ตัวเลขที่ชี้แจงมามีเหตุและผล ดำเนินการด้วยความรอบคอบ การทำงานของเราต้องการเผยแพร่ข้อมูลด้วยความชัดเจน จึงมีการแถลงข่าวอย่างละเอียด พยายามอธิบายให้ดีและมากที่สุด โดยความน่าเชื่อถือของ สศค.นั้น ยังเป็นความเชื่อถือที่วงการวิชาการและราชการให้การยอมรับ” นายพรชัย กล่าว