ถล่มตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งเหว ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปอดดำดิ่งกว่า -900 จุด ฉุด 4 วันติดกันดำดิ่งกว่า -2,300 จุด ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งเหวใน 3 ปี ความเสี่ยงคู่ความไม่แน่นอนสูงกับเศรษฐกิจสหรัฐ สงครามภาษีรุนแรง

ถล่มตลาด หุ้น สหรัฐ ดิ่งเหว ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปอดดำดิ่งกว่า -900 จุด ฉุด 4 วันติดกันดำดิ่งกว่า -2,300 จุด ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งเหวใน 3 ปี ความเสี่ยงคู่ความไม่แน่นอนสูงกับเศรษฐกิจสหรัฐ สงครามภาษีรุนแรง

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 38,170 จุด -971 จุด หรือ -2.48% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,158 จุด -124 จุด หรือ -2.36% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 15,870 จุด -415 จุด หรือ -2.55% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นสำคัญทั้งสามแห่งทำสถิติดำดิ่งเลวร้ายถึง -9% นับตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2025 หรือเป็นวันที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศบังคับใช้มาตรการภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs กับ 185 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และนาสแดคปิดลดลง 4 วันติดกันรวม -2,352 จุด และ -959 จุดตามลำดับ ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด -2%, -1.5% และ -2.% ตามลำดับ

ที่สำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งที่ทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์นั้นในช่วงที่ผ่านมากับดัชนีหุ้นของแต่ละแห่งที่ปิดตลาดในคืนผ่านมา จะพบว่า ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ -15.64% ยังคงอยู่ในภาวะปรับฐานสมบูรณ์แบบ หรือ Correction ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ร่วง -16.43% ยังคงอยู่ในภาวะปรับฐานสมบูรณ์แบบ หรือ Correction และดัชนีหุ้นนาสแดค -21.94% เข้าสู่ภาวะตลาดหมี หรือ Bear Market

สาเหตุจากนักลงทุนมีความกังวลเพิ่มขึ้นอย่างมากมายกับนโยบายภาษี และสถานการณ์แวดล้อมด้านการค้าระหว่างประเทศมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนสูง ภายใต้นโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อภาวะเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่อันดับหนึ่งของโลกอย่างสหรัฐอเมริกา และยังส่งผลให้นักลงทุนตัดสินใจลดการถือครองสินทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มีความพยายามที่จะปลดนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด สอดรับกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลสำคัญร่วงอ่อนค่าทำสถิติต่ำสุดตั้งแต่มีนาคม 2022 หรือในรอบ 3 ปีต่อเนื่องข้ามสัปดาห์

ผลสำรวจเกี่ยวกับมุมมองภาวะเงินเฟ้อสหรัฐอเมริกา พบว่าตัวเลขดังกล่าวในช่วง 5 ปี ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.5% ทำสถิติมุมมองเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีหรือนับตั้งแต่เมษายนปี 1995 เป็นต้นมา และในช่วง 1 ปี ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4.3% ทำสถิติมุมมองเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบ 1 ปี 3 เดือน หรือนับตั้งแต่พฤศจิกายนปี 2023 เป็นต้นมา

ทั้งนี้ สิ้นสุดปี 2024 พบว่า ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง พุ่งสูง +13%, +23% และ +29% ตามลำดับ โดยเฉพาะ ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติผลตอบแทนดัชนีหุ้นปิดบวกสูงกว่า 20% เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles