ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่าเมื่อวันที่ 10 มีนาคม2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 41,911 จุด -890 จุด หรือ -2.08% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,614 จุด -155 จุด หรือ -2.69% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 17,468 จุด -727 จุด หรือ -4.00% ไม่เพียงส่งผลให้ดัชนีหุ้นนาสแดคปิดหลุด 18,000 จุดครั้งแรกตั้งแต่ต้นปีนี้ แต่ยังทำสถิติดำดิ่งใน 1 วันที่เลวร้ายสุดในรอบ 2 ปี 5 เดือน หรือตั้งแต่กันยายน 2022 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นดังกล่าวดำดิ่งเกินกว่า -10% เมื่อเทียบกับสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ดัชนีหุ้นนาสแดคเข้าสู่ภาวะดัชนีหุ้นปรับฐาน หรือ Correction
สอดรับกับ ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดทำสถิติดำดิ่งรุนแรงนับตั้งแต่ต้นปีนี้ นอกจากนี้ มูลค่าหุ้นที่จดทะเบียนในดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 เสียหายมากถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 136 ล้านล้านบาท นับตั้งแต่ดัชนีหุ้นดังกล่าวทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 19 กุมภพันธ์ 2025 จนถึงในคืนผ่านมา ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 เกือบดำดิ่ง -10% กำลังจะเข้าสู่ภาวะดัชนีหุ้นปรับฐาน หรือ Correction สาเหตุจากนักลงทุนสูญเสียความเชื่อมั่น และถล่มขายหุ้นเพื่อเก็บเงินสดเพิ่มมากสุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ปฏิเสธที่จะตอบว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเกิดถดถอย นอกจากนี้ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจจะมีภาวะชะลอตัว หรือเกิดการคลายพิษเสพติดจากก่อนหน้านี้ที่มีแต่นโยบายจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ใช้จ่ายมากมาย
ด้านธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ลดเป้าหมายอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในปี 2025 นี้ลงจากเดิมที่ 2.4% มาเหลือเพียง 1.7% นับเป็นมุมมองตัวเลขจีดีพีสหรัฐที่ลดต่ำลงจากภาพส่วนใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีครึ่ง รวมถึงเมื่อวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ผ่านมา กองทุนประกันความเสี่ยงในสหรัฐอเมริกาขายหุ้นออกจากพอร์ตการลงทุนมากที่สุดในรอบ 2 ปีกว่า เพื่อลดการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ
นอกจากนี้นักลงทุนล้วนมองว่าความไม่ชัดเจนและไม่แน่นอนของการบังคับใช้มาตรการขึ้นภาษีทั้งหมดของประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความไม่แน่นอน และความเสี่ยงสูงอย่างต่อเนื่องและตลอดเวลา