เอดิสัน เปิดเผยการทำเอ็กซ์สิท โพล (Exit Poll) หลังประชาชนชาวอเมริกันที่มีไปใปช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ในครั้งนี้ พบการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 ได้รับคะแนนเสียงเพิ่มขึ้นมาจากกลุ่มประชากรฮิสแพนิก (Hispanic) ซึ่งหมายถึงชาวอเมริกันมีเชื้อสายวัฒนธรรมสเปน และอาศัยอยู่ในเม็กซิโก เปอร์โต ริโก้ อเมริกาใต้ อเมริกากลาง แคบิเบียน หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่าคนละติน เอดิสัน เปิดเผยว่าคะแนนเสียงกลุ่มฮิสแพนิกเทคะแนนให้นายทรัมป์เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเปรียบเทียบกับในปี 2020 ที่นายทรัมป์แพ้เลือกตั้งให้นายโจ ไบเดน อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์ได้สัดส่วนคะแนนจากคนกลุ่มนี้ในภาพรวมทั่วประเทศที่ 45% ซึ่งยังคงตามหลังนางแฮร์ริสที่ได้ฐานเสียงคนกลุ่มฮิสแพนิกที่ 53% ในภาพรวมทั่วประเทศ
ที่น่าสนใจ คือคนกลุ่มฮิสแพนิกในสหรัฐอเมริกานี้เคยสนับสนุนและเป็นฐานของพรรคเดโมแครตมาก่อนตลอดเวลา นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังได้คะแนนเสียงมากมายในครั้งนี้มาจากครัวเรือนอเมริกันระดับล่างที่มีรายได้ต่ำ ผลสำรวจเอ็กซ์สิท โพล ยังพบว่า 31% ของผู้ลงคะแนนให้น้ำหนักกับปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา และลงคะแนนให้นายทรัมป์ถึง 79% ต่อนางแฮร์ริสที่ 20% ในปัญหาเศรษฐกิจ นอกจากนี้ 45% ของผู้ลงคะแนนยอมรับว่าภาวะการเงินของครอบครัวในปัจจุบันตกอยู่ในภาวะเลวร้ายมากกว่าเมื่อ 4 ปีผ่านมา และยอมรับว่าให้เครดิตกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ มากถึง 80% ในขณะที่นางแฮร์ริสได้รับเครดิตเพียง 20% เท่านั้น
เมื่อเวลา 00.30 น. ตามเวลาในฝั่งตะวันออกของสหรัฐที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รัฐบาลในแต่ละรัฐได้นับคะแนนจากหน่วยลงคะแนนที่อยู่ในแต่ละเมืองรวมเป็นจำนวนมากกว่า 1,600 เมือง ซึ่งเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนเมืองทั้งหมดทั่วสหรัฐอเมริกา พบว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ สามารถเพิ่มส่วนแบ่งคะแนนเลือกตั้งขึ้น 2% เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อ 4 ปีผ่านมา หรือในการเลือกตั้งประธาสหรัฐปี 2020 โดยพบว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ มีคะแนนนิยมเพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาคต่างๆ ในบริเวณชานเมือง ในเมืองพื้นที่ห่างไกลจากเมืองใหญ่ในแต่ละรัฐ ที่น่าสนใจ คือ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนชาวอเมริกันที่อยู่ในระดับกลุ่มบน หรือมีฐานะ ซึ่งคนกลุ่มนี้เคยสนับสนุนพรรคเดโมแครตมาอย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะในเมืองเมืองที่มีรายได้สูง และเมืองที่มีรายได้ต่ำด้วย
สำนักข่าวเอพี (AP News) รายงานวันนี้ 6 พฤศจิกายน 2024 เวลา 03.00 น. ในกรุงวอชิงตัน ดีซี หรือตรงกับเวลา 15.20 น. ตามเวลาไทย พบว่า สัดส่วนคะแนนเสียงที่คาดการณ์เป็นคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง หรือ Electoral Voters ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อยู่ที่ 267 คะแนน ขณะที่นางกมลา แฮร์ริส อยู่ที่ 224 คะแนน หากใครได้รับคะแนนดังกล่าวถึง 270 คะแนนก่อน จะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ในปี 2024 นี้
ขณะที่การเลือกตั้งวุฒิสมาชิก พบว่าพรรครีพลับลิกันได้จำนวนที่นั่ง 51 เสียงต่อพรรคเดโมแครตที่ 42 เสียง สอดคล้องกับจำนวนเสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจาพรรครีพลับลิกันอยู่ที่ 192 เสียงต่อพรรคเดโมแครตที่ 172 เสียง และการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐจากพรรครีพลับลิกันมีจำนวน 27 เสียงต่อพรรคเดโมแครตที่ 23 เสียง