ทริส เรทติ้ง ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือในการลงทุนชื่อดังระดับโลก เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยชาวต่างชาติเข้าไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ลดลง 7.2% จากปีก่อนหน้าเป็น 21.9 ล้านคน การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจะลดลง ถึงแม้จะมีปัจจัยสนับสนุนจากนักท่องเที่ยวระยะไกล ภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยเผชิญกับความผันผวนในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568
สำหรับระดับความเสี่ยงต่อการท่องเที่ยวไทยของผู้ออกตราสารในภาคการโรงแรมที่ได้รับการจัดอันดับเครดิต พบว่าผู้ออกตราสารในภาคการโรงแรมที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดยทริสเรทติ้งมีระดับความเสี่ยงต่อภาคการท่องเที่ยวของไทยที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก แม้ว่า
ทริสเรทติ้งจะยังคงมั่นใจในเสน่ห์ระยะยาวของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทาง แต่บริษัทที่มีการลงทุนหลากหลายมากกว่าจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าในการรับมือกับความผันผวนของตลาด
บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) และ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) (SHR) มีความเสี่ยงต่อการท่องเที่ยวของไทยใน
ระดับต่ำที่สุด สำหรับ MINT นั้น รายได้จากโรงแรมในประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่า 10% เนื่องจากการดำเนินงานส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ในยุโรปและธุรกิจอาหารยังช่วยสร้างความหลากหลายเพิ่มเติมอีกด้วย สำหรับ SHR นั้น การมีสถานะการดำเนินงานที่มีนัยสำคัญในสหราชอาณาจักร มัลดีฟส์ และจุดหมายปลายทางต่างประเทศอื่น ๆ ทำให้การพึ่งพาตลาดในประเทศไทยของบริษัทมีจำกัด
บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) (CENTEL) และ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) (DUSIT) ได้สร้างธุรกิจโรงแรมหลักและความแข็งแกร่งทางการตลาดของตนในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองบริษัทได้สร้างความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ในระดับหนึ่งและขยายธุรกิจอาหารของตนซึ่งช่วยให้บริษัทมีความยืดหยุ่น
เพิ่มขึ้น
การดำเนินงานโรงแรมของ บริษัท เอเชียโฮเต็ล จำกัด (มหาชน) (ASIA) บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (GRAND) และ บริษัทเบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) (BEYOND) มีการพึ่งพาการท่องเที่ยวไทยเป็นหลัก ผลการดำเนินงานของพวกเขาเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับแนวโน้มตลาดภายในประเทศและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ASIA ยังสร้างรายได้ส่วนหนึ่งจากอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ให้เช่า จึงทำให้บริษัทพึ่งพาการท่องเที่ยวไทยน้อยกว่าอีกสองบริษัท