ตลาดซื้อขาย ทองคำโลก นิวยอร์ก เมื่อคืนวันที่ 23 ตุลาคม 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,714.55 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -32.14 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.2% ส่งผลหยุดทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ในรอบ 6 วันผ่านมา โดยทำนิวไฮรวม 5 ครั้งในเดือนตุลาคม นอกจากนี้ ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 6 วันติดกันรวม +96.69 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +3.8% ขณะที่ สถิติราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นแตะระดับ 2,758.37 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
สอดรับกับราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,729.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -30.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.1% ส่งผลหยุดทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ โดยทำนิวไฮรวม 4 ครั้งในเดือนตุลาคม นอกจากนี้ ส่งผลหยุดราคาทองคำปิดขึ้น 6 วันติดกันรวม +92.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +3.1% ขณะที่ สถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์แตะระดับ 2,759.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
อย่างไรก็ตาม ในด้านการวิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค พบว่า ดัชนีค่าความแข็งแกร่งราคาทองคำเมื่อเปรียบเทียบ หรือ Relative Strength Index (RSI) อยู่ที่ระดับ 74 จุด หมายถึงราคาทองคำเข้าสู่ภาวะซื้อลงทุนมากเกินปัจจัยแท้จริง ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำโลกพุ่งทะยานถึง +2.4% พบว่านับตั้งแต่ต้นปีนี้ราคาทองคำพุ่งทะยานกว่า 31%
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งแข็งค่าขึ้น 0.4% สูงสุดในรอบ 3 เดือน และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับสูงขึ้นเหนือระดับ 4% สูงสุดในรอบ 3 เดือนเช่นกัน เนื่องจากปัจจัยการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่ใกล้เข้ามาถึงในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ พบว่าคะแนนนิยมของทั้ง 2 ตัวแทนพรรคสูสีกันมาก นักลงทุนขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำปิดขึ้น 6 วันติดต่อกันและทำนิวไฮถึง 5 วันติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความรุนแรงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอเลาะห์กลายเป็นเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
ด้านตัวชี้วัดโอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐอเมริกา พบว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งต่อไปวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ มีโอกาสที่ 85% จากเดิมที่ 96% ที่ดอกเบี้ยจะปรับลดลง 0.25%