ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก รายงานว่า วันที่ 14 พฤศจิกายน 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,570.05 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -10.34 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.3% ส่งผลราคาปิดดำดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 2 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 12 กันยายนผ่านมา นอกจากนี้ ยังส่งผลราคาปิดร่วงลง 5 วันติดกันรวม -121.31 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -5.0% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำร่วงลงมากถึง -1.8% ทำสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 5 เดือน
สอดรับกับราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 2,572.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -13.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.5% ส่งผลราคาปิดร่วงลง 5 วันติดกันรวม -132.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -5.0% ขณะที่เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนผ่านทา ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Future ปิดที่ 2,669.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -80.50 หรือ -2.9% สำหรับสถิติราคาทองคำล่วงหน้า (Future) ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เกิดขึ้นรวมทั้งหมด 6 ครั้งในเดือนตุลาคม สำหรับราคาล่วงหน้า (Future) สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 2,800.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2024
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน ทำสถิติแข็งค่าสูงสุดในรอบ 1 ปี สอดรับกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด กล่าวว่าภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงผ่านมาอยู่ในภาวะดีอย่างน่าทึ่ง เศรษฐกิจสหรัฐไม่มีสัญญาณใดๆ ที่ทำให้เฟดต้องเร่งรีบในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้เฟดสามารถที่จะพิจารณาการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยด้วยความละเอียดอ่อน และระมัดระวังต่อไป
ขณะที่เมื่อวันพุธผ่านมา กระทรวงแรงงาน สหรัฐ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อสหรัฐมีสัญญาณลดลงอย่างเชื่องช้านับตั้งแต่เดือนมิถุนายนในปีผ่านมา ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าแนวโน้มจำนวนครั้งในการลดดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอาจลดน้อยลง นอกจากนี้ เงินเฟ้อทั่วไปผู้ผลิตสินค้าเดือนตุลาคมในสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านั้น ซึ่งเป็นไปตามที่คาดไว้ และเพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ซึ่งเพิ่มสูงต่อเนื่องจาก 1.9% ในเดือนกันยายนของปีที่แล้ว
ตัวชี้วัดโอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐอเมริกา พบว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งต่อไปวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ มีโอกาสที่ 76% จากเดิมที่ 82% ที่เฟดดอกเบี้ยจะปรับลง 0.25%