นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการพิจารณายกเลิกร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) สำหรับผู้โดยสารขาเข้า โดยระบุ ทอท.ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจพร้อมเดินหน้าตามนโยบายรัฐบาล แต่ทราบว่าปัจจุบันกระทรวงการคลังยังอยู่ในขั้นตอนศึกษารายละเอียด ในส่วนของ ทอท.ยืนยันว่าหากดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวจะไม่กระทบต่อสัญญาสัมปทาน เพราะมีเงื่อนไขระบุไว้ในการเรียกขอคืนพื้นที่เพื่อนำมาใช้ประโยชน์สาธารณะได้
อย่างไรก็ดี ประเมินว่าการยกเลิกดิวตี้ฟรี 6 สนามบินที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ทอท. จะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้อย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากพื้นที่ดิวตี้ฟรีขาเป็นพื้นที่จำนวนไม่มาก คิดเป็น 10% ของสัญญาสัมปทานทั้งหมด ส่วนรายได้ต่อปี ทอท.ได้รับส่วนแบ่งดิวตี้ฟรีอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท เบื้องต้นประเมินว่าหากยกเลิกดิวตี้ฟรีขาเข้า จะส่งผลให้รายได้ลดลงไม่เกิน 20% หรือไม่เกิน 3,000 ล้านบาท โดยเมื่อพื้นที่รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น จะส่งผลบวกต่อการเติบโตของประมาณผู้โดยสาร และทำให้รายได้ของ ทอท.เพิ่มขึ้นมาชดเชยรายได้ส่วนนี้ที่หายไป
โดยรายได้ดิวตี้ฟรีไม่ใช่รายได้หลักของ ทอท. เพราะได้รับต่อปีเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท ปรับเพิ่มตามปริมาณผู้โดยสาร ขณะที่รายได้หลักยังคงเป็นค่าบริการผู้โดยสารขาออก (PSC) ซึ่งสูงเฉลี่ย 730 บาทต่อคน ดังนั้นเป้าหมายที่ ทอท.คาดว่าจะผลักดันปริมาณผู้โดยสารให้สูงต่อเนื่อง ในอีก 5 ปี หรือในปี 2572 คาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 170 ล้านคน และในอีก 10 ปี หรือในปี 2577 คาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 210 ล้านคน จะทำให้รายได้ของ ทอท.ปรับสูงขึ้นดังนั้นรายได้ดิวตี้ฟรีที่หายไปจึงไม่มีนัยยะสำคัญ
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากกิจการด้านการบินอยู่ที่ 55% และนอกเหนือกิจการด้านการบินอยู่ที่ 45% ซึ่ง ทอท.ยังมั่นใจว่าจะคงสัดส่วนนี้เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ทอท.มีแผนเพิ่มรายได้นอกเหนือกิจการด้านการบินผ่านการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบท่าอากาศยาน โดยเฉพาะส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีพื้นที่พร้อมพัฒนา คือ แปลง 723 ไร่ ที่ผ่านมาได้เจรจาพัฒนาศูนย์ฝึกการบิน และสายการบินหลายแห่งสนใจใช้พื้นที่ อาทิ การบินไทย สายการบิน ANA รวมไปถึงพื้นที่พัฒนาแอร์พอร์ตซิตี้ 600 ไร่ คาดว่าจะเริ่มประมูลปลายปีนี้ ลงนามต้นปีหน้า เบื้องต้นประเมินรับรู้รายได้ในปี 2569 – 2570 เฉพาะส่วนของค่าเช่าปีละ 900 ล้านบาท ไม่รวมส่วนแบ่งรายได้ที่จะรับรู้หลังโครงการเปิดให้บริการ
ขณะเดียวกัน การยกเลิกพื้นที่ดิวตี้ฟรี รวมไปถึงการขอคืนพื้นที่ดิวตี้ฟรีในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานภูเก็ต ที่ ทอท.ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ และจะมีผลในวันที่ 1 ก.ค.2567 เป็นต้นไป นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะสนับสนุนให้ ทอท.ยกระดับท่าอากาศยานของไทยให้กลับมาติดอันดับ 1 ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดในโลกภายใน 5 ปี เนื่องจากการเพิ่มพื้นที่บริการผู้โดยสาร สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รองรับระหว่างการใช้ท่าอากาศยาน นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยของการชี้วัดมาตรฐานด้านการบิน