ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวสัมมนาหัวข้อ เครื่องจักรกการเติบโตใหม่ในยุคโลกาภิวิตน์ย้อนกลับ” ว่า เศรษฐกิจไทย กำลังเข้าสู่ภาวะ “โตช้าเรื้อรัง” ต่อเนื่องยาวนานกว่า 30 ปี โดยแม้ประเทศไทยเคยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึง 7% ต่อปี แต่ปัจจุบันเหลือเพียงประมาณ 2% เท่านั้น ส่งผลให้ไทยรั้งท้ายภูมิภาคเอเชีย เหลือนำหน้าเพียงญี่ปุ่นประเทศเดียว
โดยวิกฤตเศรษฐกิจในรอบหลายทศวรรษไม่ได้กระทบชั่วคราว แต่ได้ทำให้ศักยภาพการเติบโตของไทยลดลงอย่างถาวร หากแนวโน้มยังเป็นเช่นนี้ ภายในไม่เกินปี 2073 รายได้ต่อหัวของชาวเวียดนามจะสูงกว่าไทย ขณะที่ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ตั้งเป้าให้ไทยเป็นประเทศรายได้สูงในปี 2579 (2036) “แทบไม่สามารถบรรลุผลได้” เพราะรายได้ต่อหัวไทยเพิ่มขึ้นช้ากว่าประเทศรายได้สูงอย่างมีนัยสำคัญ
ข้อมูลจาก TDRI ระบุว่า ระหว่างปี 2021–2024 การเติบโตต่อหัวของไทยเฉลี่ยเพียง 0.1% ต่ำจน “ไม่มีวันไล่ทันประเทศรายได้สูง” หากไม่ปฏิรูปเชิงโครงสร้างครั้งใหญ่ โดยปัญหาการโตต่ำยังส่งผลต่อความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น 1. หนี้ครัวเรือนยังสูงกว่า 80% ของ GDP แม้เริ่มชะลอลง 2. ธนาคารไม่ปล่อยกู้ SME เพราะเสี่ยงหนี้เสีย 3. ภาครัฐต้องอุ้มหลายภาคส่วน ทั้งครัวเรือน เกษตรกร และธุรกิจ ทำให้หนี้สาธารณะพุ่งสูง
นอกจากนี้ ค่าจ้างแรงงานต่อ GDP ลดลงต่อเนื่อง สะท้อนว่าผลตอบแทนไปสู่ทุนนิยมมากกว่าแรงงาน ทั้งนี้ ประเทศไทยไม่ได้เป็นประเทศที่ว่างงานสูง แต่เป็นประเทศที่คนทำงานแล้ว “รายได้ไม่พอ” โดยแรงงานจำนวนมากไม่สามารถเลี้ยงชีพครอบครัวได้อย่างมีศักดิ์ศรี
อย่างไรก็ตาม ปัญหาเศรษฐกิจยังเชื่อมโยงไปถึงสังคมและการเมือง เช่น การทุจริต ความไม่โปร่งใส ความอ่อนแอของระบบนิติธรรม รวมถึงความเสี่ยงที่ไทยจะกลายเป็น “ประเทศสีเทา” หากปล่อยให้เครือข่ายฟอกเงิน-อาชญากรรมข้ามชาติขยายตัวต่อเนื่อง โดย สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องสร้างงานดี (Good Jobs) ที่ให้รายได้เพียงพอ มีสวัสดิการ ความปลอดภัย และความก้าวหน้า เพราะหากคนมีงานดี สังคมจะสงบ การเมืองมีเสถียรภาพ และประเทศจะโตได้อย่างยั่งยืน
“Good Job จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อประชาชนมีทักษะสูงขึ้น ระบบการผลิตเข้มแข็ง และธุรกิจสามารถแข่งขันได้จริง”