ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชื่อดังระดับโลกจากอังกฤษ เปิดเผยว่า ได้ปรับเป้าหมายค่าเงินบิทคอยน์ในสิ้นปี 2024 นี้ จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.6 ล้านบาทต่อบิทคอยน์ ขึ้นมาเป็นเป้าหมายใหม่ที่ 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5.4 ล้านบาทต่อบิทคอยน์ หรือปรับขึ้นอีก 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.8 ล้านบาทต่อบิทคอยน์ หรือ +33.3% จากราคาเป้าหมายเดิม ที่สำคัญ ยังประเมินว่าในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งในปี 2025 ราคาสูงสุดของเงินบิทคอยน์จะเคลื่อนไหวที่ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 9 ล้านบาทต่อบิทคอยน์
สาเหตุจาก ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ ใช้การประเมินเทียบเคียงความสัมพันธ์ระหว่างราคาเงินบิทคอยน์และราคาทองคำ โดยเฉพาะย้อนกลับไปในช่วงแรกที่มีการเปิดตลาดกองทุนหน่วยลงทุนทองคำอีทีเอฟในสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับแรงซื้อขายตลาดทองคำอย่างคึกคักและต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้คำนวนจากความสัมพันธ์กระแสเงินลงทุนในกองทุนอีทีเอฟกับราคาเงินบิทคอยน์ด้วย
ถ้าปริมาณเงินทุนไหลเข้าลงทุนในกองทุนอีทีเอฟถึง 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.7 ล้านล้านบาท และกองทุนต่างๆเจ้าลงทุนเงินบิทคอยน์ จะทำให้ราคาเงินบิทคอยน์ขึ้นไปเคลื่อนไหวสูงสุดถึง 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 9 ล้านบาทต่อบิทคอยน์ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งในปี 2025 หากมีราคาขึ้นถึงระดับดังกล่าวแล้ว ราคาเงินบิทคอยน์จะร่วงลงมาแตะระดับ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 7.2 ล้านบาทต่อบิทคอยน์ หรือลดลง -20%
เมื่อวานนี้ 18 มีนาคม 2024 นายริชาร์ด เติ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ไบแนนซ์ (Binance) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโตเคอร์เรนซีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คาดการณ์ค่าเงินบิทคอยน์จะสูงขึ้นถึง 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.88 ล้านบาทต่อบิทคอยน์ สาเหตุจากนักลงทุนประเภทสถาบันการเงินจะเข้าลงทุนในกองทุนหน่วยลงทุนเงินบิทคอยน์อีทีเอฟมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนผ่านมา 18 มีนาคม 2024 เงินบิทคอยน์มีราคาตกต่ำลงในตลาดนิวยอร์ก สหรัฐ โดยถูกเทขายลงมาปิดที่ระดับ 66,950 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,410,200 บาทต่อบิทคอยน์ ลดลง -1,387 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 49,932 บาทต่อบิทคอยน์ หรือ -2.03% หลังจากในช่วงสัปดาห์ผ่านไป เงินบิทคอยน์ปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ถึง 5 ครั้ง โดยมีราคาสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ 73,797 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,656,692 บาท
สาเหตุจากภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐมีความไม่แน่นอนสูงที่จะลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตสินค้าเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มสูงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคเดือนเดียวกันที่เพิ่มสูงแต่ไม่มากเกินไป ที่สำคัญรอผลประชุมดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 20 มีนาคมนี้
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ในวงการตลาดเงินบิทคอยน์ มองว่าอาจมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะปรับฐานของราคาเงินบิทคอยน์ในรอบนี้ ซึ่งมองราคาลงต่ำสุดที่ 63,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,268,000 บาทต่อบิทคอยน์
