ธนาคารเอดีบีตรึงเศรษฐกิจไทยนิ่งเท่าเดิมทั้ง 2 ปีติดกัน มองปี 69 โต 1.6% ลดต่ำจากปีนี้ที่ 2.0% เวียดนามโตแกร่งขึ้นจากเป้าเดิมทั้ง 2 ปีติด ไทยโตรั้งท้ายสุดใน 6 ชาติชั้นนำอาเซียนถึง 2 ปีต่อเนื่อง

ธนาคารเอดีบี ตรึง เศรษฐกิจไทย นิ่งเท่าเดิมทั้ง 2 ปีติดกัน มองปี 69 โต 1.6% ลดต่ำจากปีนี้ที่ 2.0% เวียดนามโตแกร่งขึ้นจากเป้าเดิมทั้ง 2 ปีติด ไทยโตรั้งท้ายสุดใน 6 ชาติชั้นนำอาเซียนถึง 2 ปีต่อเนื่อง

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย หรือเอดีบี เปิดเผยรายงานมุมมองภาวะเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียนปี 2025 ประจำเดือนธันวาคม เปิดเผยว่าได้ปรับขึ้นตัวเลขจีดีพีของอาเซียนปี 2025 อีก 0.2% จากเดิมในเดือนกันยายนที่คาดว่าจะเติบโตระดับ 4.3% มาเป็น 4.5% สอดรับกับในปี 2026 ได้ปรับขึ้นจีดีพีอีก 0.1% จากเดิมที่ระดับ 4.3% ขึ้นเป็น 4.4% นอกจากนี้ ธนาคารเอดีบีได้มีการปรับขึ้นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือตัวเลขจีดีพี มี 4 ประเทศ ปรับลดตัวเลขจีดีพีมี 1 ประเทศ และไม่เปลี่ยนแปลงตัวเลขมี 1 ประเทศ จากทั้งหมด 6 ประเทศชั้นนำในอาเซียน

สำหรับ 4 ประเทศในอาเซียนที่ได้รับการปรับขึ้นตัวเลขจีดีพีในปี 2025 และในปี 2026 มีดังนี้ ปี 2025 เวียดนามจาก 6.7% มาเป็น 7.4% อินโดนีเซียจาก 4.9% เป็น 5.0% มาเลเซียจาก 4.3% เป็น 4.5% และสิงคโปร์จาก 2.5% เป็น 4.1% ในปี 2026 เวียดนามจาก 6.0% มาเป็น 6.4% อินโดนีเซียจาก 5.0% เป็น 5.1% มาเลเซียจาก 4.2% เป็น 4.3% และสิงคโปร์จาก 1.4% เป็น 2.1%

สำหรับประเทศในอาเซียนที่ได้รับการปรับลดตัวเลขจีดีพีในปี 2025 และในปี 2026 มีเพียงประเทศเดียว ได้แก่ ฟิลิปปินส์ในปี 2025 จากเดิม 5.6% ลงมาเหลือ 5.0% และในปี 2026 จากเดิม 5.7% ลงมาเหลือ 5.3%

ธนาคารเอดีบี เปิดเผยว่าไม่ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์จีดีพีของประเทศไทยในปี 2025 ซึ่งยังคงประเมินว่าจะขยายตัวที่ระดับ 2.0% และในปี 2026 คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 1.6% สำหรับเศรษฐกิจประเทศไทยนั้น หลังจากเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงเป็น 1.2% จาก 2.8% ในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 และเติบโตเฉลี่ย 2.4% ในเดือนมกราคมถึงกันยายนปีนี้ อย่างไรก็ตาม การเติบโตได้รับการสนับสนุนจากการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพในช่วงปลายไตรมาส ซึ่งสอดคล้องกับจากการส่งออกที่เร่งตัวขึ้นล่วงหน้าในช่วง 2 ไตรมาสแรก มาตรการกระตุ้นของรัฐบาล และการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในการท่องเที่ยว

การชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยที่คาดการณ์ไว้ในช่วงปลายปี 2025 และปี 2026 เป็นผลกระทบของมาตรการการค้าของสหรัฐฯ การบริโภคส่วนบุคคลระดับปานกลาง ข้อจํากัดของภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูง และการลงทุนที่เชื่องช้า สถานการณ์น้ําท่วมครั้งใหญ่ในภาคใต้ของประเทศไทยโดยเฉพาะในพื้นที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลาเมื่อในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ทําให้เกิดการหยุดชะงักอย่างมีนัยสําคัญในหลาย ๆ ภาคเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวคาดว่าจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง หลังจากชาวมาเลเซีย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวหลักสำคัญได้ยกเลิกการเดินทางทั้งหมดไปยังภาคใต้ของประเทศไทยเพื่อความปลอดภัย ปัจจัยความเสี่ยงอื่นๆ ยังรวมถึงความไม่แน่นอนของโลก การท่องเที่ยวที่อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ และความเปราะบางทางการเมืองในไทย

ทั้งนี้ ในรายงานดังกล่าวของธนาคารเอดีบีส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศไทยไม่เพียงมีการขยายตัวต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับทุก 6 ชาติชั้นนำอาเซียนทั้ง 2 ปีติดต่อกัน แต่ยังเติบโตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของทั้ง 6 ประเทศอาเซียนอีกด้วย ในปี 2025 อันดับ 1.เวียดนาม 7.4% อันดับ 2.อินโดนีเซีย 5.0% อันดับ 3.ฟิลิปปินส์ 5.0% อันดับ 4.มาเลเซีย 4.5% อันดับ 5.สิงคโปร์ 4.1% และอันดับ 6. ไทย 2.0% ในปี 2026 อันดับ 1.เวียดนาม 6.4% อันดับ 2.ฟิลิปปินส์ 5.3% อันดับ 3.อินโดนีเซีย 5.1% อันดับ 4.มาเลเซีย 4.3% อันดับ 5.สิงคโปร์ 2.1% และอันดับ 6. ไทย 1.6%

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles