กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยสถานการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนพฤศจิกายน 2568 มีจำนวน 5,554 ราย ลดลงจากเดือนก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านภาพรวมการลงทุนจากต่างชาติยังคงเติบโต ช่วง 11 เดือนของปี 2568 มีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในไทย 973 ราย เงินลงทุนรวมกว่า 311,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนนักลงทุนและมูลค่าเงินลงทุน สะท้อนความเชื่อมั่นต่อศักยภาพเศรษฐกิจไทยในระยะยาว และก่อนสิ้นปีกรมฯ จัดของขวัญปีใหม่ให้ภาคธุรกิจและประชาชนทั้งส่วนลด โปรโมชัน และการให้บริการที่ไม่สะดุด
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผลวิเคราะห์สถานการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนพฤศจิกายน 2568 พบว่า มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 5,554 ราย เมื่อเทียบแบบเดือนต่อเดือน (MoM) กับเดือนตุลาคม 2568 (7,165 ราย) ลดลง 1,611 ราย คิดเป็น 22% และเมื่อเทียบแบบปีต่อปี (YoY) กับเดือนพฤศจิกายน 2567 (6,266 ราย) ลดลง 712 ราย คิดเป็น 11%
ขณะที่ทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 14,860 ล้านบาท เมื่อเทียบแบบเดือนต่อเดือน (MoM) กับเดือนตุลาคม 2568 (21,778 ล้านบาท) ลดลง 6,917 ล้านบาท คิดเป็น 32% และเมื่อเทียบแบบปีต่อปี (YoY) กับเดือนพฤศจิกายน 2567 (24,220 ล้านบาท) ลดลง 9,360 ล้านบาท คิดเป็น 39%
จากสถิติข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจโดยรวมอยู่ในภาวะชะลอตัว ทั้งนี้ เมื่อวิเคราะห์อัตราการเติบโตของการจัดตั้งธุรกิจใหม่ พบว่า มี 3 ประเภทธุรกิจที่ขยายตัวอย่างน่าสนใจเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2567 (YoY) คือ 1) ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและห้องชุด มีจำนวน 1,339 ราย เพิ่มขึ้น 428 ราย คิดเป็น 46.98% ทุนจดทะเบียน 12,882 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,476 ล้านบาท 2) ธุรกิจการขายส่งสินค้าทั่วไปโดยได้รับค่าตอบแทนฯ มีจำนวน 1,426 ราย เพิ่มขึ้น 437 ราย คิดเป็น 44.19% ทุนจดทะเบียน 2,752 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 577 ล้านบาท และ 3) ธุรกิจการขนส่งและขนถ่ายสินค้า รวมถึงคนโดยสาร มีจำนวน 1,876 ราย เพิ่มขึ้น 415 ราย คิดเป็น 28.41% ทุนจดทะเบียน 2,837 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 531 ล้านบาท
โดยการจัดตั้งใหม่ช่วง 11 เดือนของปี 2568 (มกราคม-พฤศจิกายน) มีจำนวน 80,064 ราย เมื่อเทียบกับช่วง 11 เดือนของปี 2567 (83,219 ราย) ลดลง 3,155 ราย คิดเป็น 4% ขณะที่ทุนจดทะเบียนตั้งใหม่ 11 เดือน สะสมอยู่ที่ 250,852 ล้านบาท
การจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการเดือนพฤศจิกายน 2568 มีจำนวน 2,494 ราย เมื่อเทียบแบบเดือนต่อเดือน (MoM) กับเดือนตุลาคม 2568 (2,298 ราย) เพิ่มขึ้น 196 ราย คิดเป็น 9% และเมื่อเทียบแบบปีต่อปี (YoY) กับเดือนพฤศจิกายน 2567 (2,852 ราย) ลดลง 358 ราย คิดเป็น 13%
ด้านทุนจดทะเบียนเลิกอยู่ที่ 10,979 ล้านบาท เมื่อเทียบแบบเดือนต่อเดือน (MoM) กับเดือนตุลาคม 2568 (9,228 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 1,751 ล้านบาท คิดเป็น 19% และเมื่อเทียบแบบปีต่อปี (YoY) กับเดือนพฤศจิกายน 2567 (10,173 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 805 ล้านบาท คิดเป็น 8%
การจดทะเบียนเลิกช่วง 11 เดือนของปี 2568 (มกราคม-พฤศจิกายน) มีจำนวน 16,671 ราย ลดลง 943 ราย คิดเป็น 5% เมื่อเทียบกับช่วง 11 เดือนของปี 2567 (17,614 ราย)
ทุนจดทะเบียนเลิก 11 เดือน สะสมอยู่ที่ 88,797 ล้านบาท ลดลง 47,281 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วง 11 เดือนของปี 2567 (136,078 ล้านบาท) ลดลง 47,281 ราย คิดเป็น 35%
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568) มีธุรกิจที่จดทะเบียนนิติบุคคลรวมทั้งสิ้น 2,044,893 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 31.73 ล้านล้านบาท โดยมีนิติบุคคลดำเนินกิจการอยู่ 970,081 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 23.32 ล้านล้านบาท
สำหรับกลุ่มนิติบุคคลที่มีสัดส่วนการจดทะเบียนมากที่สุดคือ กลุ่มบริการ มีจำนวน 526,117 ราย ทุนจดทะเบียน 13.60 ล้านล้านบาท รองลงมาคือ กลุ่มค้าส่ง/ค้าปลีก 318,212 ราย ทุนจดทะเบียน 2.62 ล้านล้านบาท และกลุ่มผลิต 125,752 ราย ทุนจดทะเบียน 7.10 ล้านล้านบาท คิดเป็น 54.24%, 32.80% และ 12.96% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ตามลำดับ
การลงทุนของชาวต่างชาติในไทยประจำเดือนพฤศจิกายน 2568 และ 11 เดือนของปี 2568
การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 (เฉพาะธุรกิจที่กำหนดให้ต้องขออนุญาต) เดือนพฤศจิกายน 2568 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย 104 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 35 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) 69 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 34,426 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากสิงคโปร์ จีน และญี่ปุ่น ตามลำดับ
การลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ช่วง 11 เดือนของปี 2568 (มกราคม-พฤศจิกายน) ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 มีจำนวน 277 ราย คิดเป็น 28% ของนักลงทุนต่างชาติในไทย มูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 101,666 ล้านบาท คิดเป็น 33% ของเงินลงทุนทั้งหมด