เอสแอนด์พี โกลบอล เรตติ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือการลงทุน ชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ธุรกิจเอกชนไม่สามารถชำระหนี้หรือที่เรียกว่าภาวะชักดาบเพิ่มสูงขึ้นถึง 2 เท่าในเดือนเมษายนเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคมปีนี้ ส่งผลให้ภาวะการเบี้ยวหนี้ของธุรกิจเอกชนทั่วโลกในเดือนเมษายนสูงสุดในรอบ 3 ปี 7 เดือนหรือนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2020 เป็นต้นมา
จากข้อมูลพบว่าในเดือนเมษายนที่ผ่านไปธุรกิจเอกชนทั่วโลกมีจำนวน 18 แห่ง ที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดเมื่อผ่านพ้นช่วงระยะเวลาที่ผ่อนผันไปแล้ว ในจำนวนดังกล่าวพบว่า มีธุรกิจเอกชนจำนวน 10 แห่งในประเทศสหรัฐอเมริกา หรือคิดเป็น 55% ของทั้งหมด มีมูลค่า 7,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 262,700 ล้านบาท ในจำนวนธุรกิจเอกชนทั้ง 18 รายที่เบี้ยวหนี้นั้น ได้แก่ คอนเวิร์จวัน โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นธุรกิจบริการไอทีที่ล้มละลาย เอ็กซ์เพรส ซึ่งเป็นแบรนด์ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นชื่อดังในสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
สาเหตุที่ทำให้ธุรกิจภาคเอกชนต้องเผชิญกับภาวะล้มละลายมาจากหลากหลายปัจจัย ได้แก่ หุ้นกู้ของธุรกิจเอกชนจำนวนมากที่ล่วงเลยวันครบกำหนดชำระไถ่ถอนคืนให้กับเจ้าหนี้ การดำเนินกิจการที่ประสบไปด้วยความยากลำบากและข้อจำกัดอย่างมากมายในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และภาวะต้นทุนทางการเงินสูงสูงในรอบหลายทศวรรษ เมื่อพิจารณาเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา จะพบว่า 56% ของธุรกิจเอกชนที่ไม่สามารถชำระหนี้คืนให้กับเจ้าหนี้ได้ในเดือนเมษายนนั้น มาจากภาวะล้มละลาย ขณะที่ในส่วนที่เหลือ 46% มาจากภาวะรายได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ส่งผลต่อความไม่สามารถชำระหนี้คืนได้
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจำนวนธุรกิจภาคเอกชนที่เผชิญกับภาวะไม่สามารถชำระหนี้คืนเจ้าหนี้ในเดือนเมษายนเพิ่มสูงขึ้น 2 เท่า ซึ่งสูงสุดในรอบกว่า 3 ปีนั้น แต่ในแง่ มูลค่ากลับพบว่า ลดลงเกือบครึ่ง จาก 16,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 693,100 ล้านบาท มาอยู่ที่ 8,600 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 318,200 ล้านบาท
สำหรับประเภทกิจการที่ไม่สามารถชำระหนี้คืนให้กับเจ้าหนี้ในเดือนเมษายนได้นั้น ประกอบด้วย ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจสื่อ และธุรกิจในกลุ่มบันเทิง ทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจนี้ รวมกันมีสัดส่วนมากที่สุดที่ผิดนัดชำระหนี้นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันปัจจุบัน
ทั้งนี้ถึงแม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะเป็นประเทศที่มีธุรกิจเอกชนผิดนัดชำระหนี้สูงเป็นจำนวนมาก แต่ในขณะที่ธุรกิจเอกชนในสหภาพยุโรปก็เผชิญอยู่ในสถานะเดียวกัน โดยมีจำนวนธุรกิจเอกชน 15 แห่งในยุโรปที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดเวลาและผ่านพ้นช่วงเวลาผ่อนผันไปแล้วได้ทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2008