คอยน์เมททริกซ์ (Coin Metrics) แพลทฟอร์มรายงานค่าเงินคริปโทเคอร์เรนซี รายงานว่า วันนี้ 26 กุมภาพันธ์ 2025 เวลา 10.45 น. ตามเวลาสิงคโปร์ หรือตรงกับ 9.45 น. เวลาไทย พบว่า ค่าเงินบิทคอยน์ ซึ่งมีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซี มีราคาเคลื่อนไหวที่ 80,340 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,731,581 บาทต่อบิทคอยน์ เพิ่มขึ้น -3,440 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ -116,960 บาทต่อบิทคอยน์ หรือ -4.11% ยังคงทำสถิติค่าเงินบิทคอยน์ต่ำสุดในรอบ 3 เดือนครึ่ง หรือนับตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2024 เป็นต้นมา
ที่สำคัญ ค่าเงินบิทคอยน์ในตลาดเอเชียขณะนี้ มีราคาดำดิ่งลงมากถึง 25% จากระดับราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ 109,241 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3,709,876 บาทต่อบิทคอยน์ นับตั้งแต่วันสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ของนายโดนัลด์ ทรัมป์
สาเหตุจาก นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวในคืนผ่านมาว่ามาตรการเก็บภาษีสูง 25% กับสินค้านำเข้าจากประเทศแคนาดา และเม็กซิโก จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มีนาคมนี้อย่างแน่นอน ไม่มีการเลื่อนระยะเวลาอีกแต่อย่างใด นอกจากนี้ จะปรับขึ้นภาษีอีก 10% จากที่เคยประกาศใช้เก็บขึ้น 10% ไปเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์กับสินค้านำเข้าจากประเทศจีน ส่งผลให้สินค้านำเข้าจากจีนจะถูกเก็บภาษีขึ้นเป็น 20% ให้มีผลวันที่ 4 มีนาคมเป็นต้นไป ส่งผลให้นักลงทุนในแทบทุกตลาดทุนทั่วโลกเกิดความกังวลอย่างมากกับภาวะสงครามการค้า และภาวะเศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบรุนแรงจากการตอบโต้ภาษีการค้าของชาติยักษ์ใหญ่
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ผ่านมาค่าเงินคริปโทเคอร์เรนซีในตลาดเอเชีย มีราคาเคลื่อนไหวที่ 88,813 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3,019,642 บาทต่อบิทคอยน์ เพิ่มขึ้น -5,447 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ -185,198 บาทต่อบิทคอยน์ หรือ -5.78% ยังคงทำสถิติค่าเงินบิทคอยน์ต่ำสุดในรอบ 3 เดือนครึ่ง หรือนับตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน 2024 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ยังทำสถิติค่าเงินดังกล่าวร่วงติดต่อกันถึง 4 วันมากที่สุดในรอบ 6 เดือนกว่า หรือนับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม 2024
สาเหตุเกิดจากนโยบายด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของนายโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังสร้างความกังวลต่อแนวโน้มภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาที่จะกลับมาพุ่งสูงในอนาคต ทำให้แนวโน้มการลดดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐเกิดความล่าช้ามากกว่าเป้าหมาย นอกจากนี้ นักลงทุนที่ถือครองหน่วยลงทุนเงินบิทคอยน์ หรืออีทีเอฟบิทคอยน์ตัดสินใจลดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกองทุนอีทีเอฟบิทคอยน์ที่มีชื่อว่าไอแชร์ บิทคอยน์ ทรัสท์ อีทีเอฟ ซึ่งเป็นกองทุนราคาอีทีเอฟบิตคอยน์ส่งมอบทันที หรือ Spot ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาได้เทขายออกมีมูลค่าสูงถึง 158 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5,372 ล้านบาท
สอดรับกับนักลงทุนเน้นบิตคอยน์ได้ขายเงินลงทุนมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 8,500 ล้านบาทออกจากกองทุนหน่วยลงทุนบิทคอยน์ชื่อว่า ฟิเดลลิตี้ ไวส์ ออริจิ้น บิทคอยน์ ทำสถิติมูลค่าการขายกองทุนที่มีขนาดมากอันดับสามของกองทุนอีทีเอฟบิตคอยน์ ที่สำคัญเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ เม็ดเงินลงทุนรวมกันมากถึง 956 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 32,504 ล้านบาท ถูกถอนออกจากกองทุนอีทีเอฟบิตคอยน์ประเภทราคาลงทุนส่งมอบทันที หรือราคา Spot ทำสถิติเดือนที่เลวร้ายที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของกองทุนอีทีเอฟบิทคอยน์ที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐอเมริกา
ก่อนหน้านี้ในตลาดเอเชีย เงินบิตคอยน์ดำดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลหลุดระดับ 88,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,992,000 บาท ทำสถิติแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024 หรือในรอบ 2 เดือนครึ่ง สาเหตุจากบายบิท Bybit ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคริปโทเคอร์เรนซีในดูไบถูกแฮกเกอร์เจาะเข้าถึงระบบหลังบ้าน ส่งผลให้เงินบิทคอยน์เสียหายมากกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 51,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการโจรกรรมในวงการสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ Bybit ให้บริการแก่ลูกค้ามากกว่า 60 ล้านคนทั่วโลก และให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ รวมถึงบิตคอยน์และอีเธอร์ นอกจากนี้ การทรุดตัวของบิตคอยน์ส่งผลให้มูลค่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซีดิ่งลง 10% หรือหายไปมากกว่า 2.30 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 3.01 ล้านล้านดอลลาร์