นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 เปิดเผยว่า ครึ่งปีแรกของปี 2568 (มกราคม – มิถุนายน) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 จำนวน 502 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 123 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) 379 ราย มูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 111,506 ล้านบาท โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรกของครึ่งปีแรก 2568 ได้แก่
1. ญี่ปุ่น 99 ราย คิดเป็นร้อยละ 20 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 43,025 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
– ธุรกิจการจัดหาจัดซื้อวัตถุดิบ ชิ้นส่วน และส่วนประกอบสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ
– ธุรกิจบบริการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อจำหน่าย และ/หรือ ให้บริการ
– ธุรกิจบริการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกวิศวกรรม
– ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์ช่วยพยุงข้อมือ สิ่งพิมพ์ลามิเนทเพื่อบรรจุภัณฑ์ อุปกรณ์สำหรับรถแทรกเตอร์เพื่อการเกษตร ชิ้นส่วนยานพาหนะ
2. สหรัฐอเมริกา 72 ราย คิดเป็นร้อยละ 14 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 2,797 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
– ธุรกิจบริการทางวิศวกรรม
– ธุรกิจค้าปลีกสินค้า เช่น ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ตกแต่งยานพาหนะ เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องจักร/เครื่องมือ/อุปกรณ์/ชิ้นส่วน และส่วนประกอบที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ
– ธุรกิจบริการทำการตลาด รวมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อพัฒนาธุรกิจ
– ธุรกิจบริการรับจ้างผลิต เช่น DC Cable โลหะผสมสำหรับผลิตเครื่องประดับ Captive Screw for PCB
3. จีน 65 ราย คิดเป็นร้อยละ 13 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติ ลงทุน 18,336 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
– ธุรกิจการจัดหาจัดซื้อวัตถุดิบ ชิ้นส่วน และส่วนประกอบสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ
– ธุรกิจบริการซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า
– ธุรกิจบริการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อจำหน่าย และ/หรือ ให้บริการ
– ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ชุดสายไฟแรงดันสูงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์จากพลาสติกชีวภาพ ชิ้นส่วนยานพาหนะ แผ่นพลาสติกพิมพ์ลาย
4. สิงคโปร์ 63 ราย คิดเป็นร้อยละ 13 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติ ลงทุน 17,384 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
– ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับตามที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลัง
– ธุรกิจบริการสนับสนุนและบริหารจัดการการวิจัยทางคลินิก
– ธุรกิจบริการ Data Center
– ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์โลหะและชิ้นส่วนโลหะทุบขึ้นรูป บรรจุภัณฑ์กระดาษเคลือบพลาสติกชีวภาพ แม่พิมพ์และชิ้นส่วนพลาสติก Printed Circuit Board
5. ฮ่องกง 51 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 8,309 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
– ธุรกิจบริการศูนย์กระจายสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัย
– ธุรกิจบริการสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานพาหนะไฟฟ้า
– ธุรกิจบริการ Data Center
– ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ผลิตภัณฑ์ทางทันตกรรม ผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อการอุตสาหกรรม ชิ้นส่วนพลาสติก ชิ้นส่วนโลหะ
ถือได้ว่าการเข้ามาประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในไทยในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมข้างต้น มีส่วนช่วยในการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการท่าเทียบเรือและความปลอดภัยการขนถ่ายสินค้า องค์ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการคลังสินค้า องค์ความรู้เกี่ยวกับสถานีจัดประจุไฟฟ้า เป็นต้น
เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 พบว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 117 ราย เพิ่มขึ้น 30% และมีมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น 30,019 ล้านบาท รวมถึง มีการจ้างงานคนไทยจากนักลงทุนที่ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเพิ่มขึ้น 1,438 คน (เพิ่มขึ้น 78%)โดยจำนวนนักลงทุนที่เข้ามาสูงสุดยังคงเป็นนักลงทุนญี่ปุ่นเช่นเดียวกับปีก่อน