ตลาดซื้อขายทองคำโลกในเอเชียที่สิงคโปร์ รายงานว่า วันนี้ 22 เมษายน 2024 เมื่อเวลา 12.00 น. ตามเวลาสิงคโปร์ หรือตรงกับ 11.00 น. เวลาไทย พบว่าราคา
ทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot เคลื่อนไหวที่ 2,363.55 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -31.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.2% เมื่อเทียบกับราคาปิด มื่อวันศุกร์ที่ 19 เมษายน 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,395.15 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +13.06 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.7% ขณะที่ราคาสูงสุดระหว่างวันในวันศุกร์ที่ 12 เมษายนผ่านมาพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,431.29 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่
สาเหตุจากปัจจัยบวกของสถานการณ์การโจมตีตอบโต้กันระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านผ่อนคลายลงและอยู่ในวงจำกัด ในขณะที่ นักลงทุนในตลาดทองคำแถบเอเชียรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะในวันศุกร์ที่ 26 เมษายน จะประกาศตัวเลขรายจ่ายส่วนบุคคลชาวอเมริกันเดือนมีนาคม ด้านผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ยังทรงตัวสูงเหนือกว่า 4% สอดรับกับเงินดอลลาร์สหรัฐในเอเชียแข็งค่า
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำปิดเพิ่มสูงขึ้นถึง +2.2% และยังเป็นราคาทองคำรายสัปดาห์ที่ปิดขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ต่อเนื่อง ส่งผลทำสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์ที่ปิดขึ้นยาวนานที่สุดในรอบ 1 ปี 3 เดือน หรือนับตั้งแต่ต้นปี 2023 เป็นต้นมา เมื่อจบเดือนมีนาคมผ่านไป ทองคำตลาดโลกพุ่งทะยาน 9% ทำสถิติทองคำรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบ 3 ปี 8 เดือน หรือตั้งแต่กรกฎาคม 2020 นอกจากนี้ ราคาทองคำปิดขึ้น +8% ในไตรมาสที่ 2 ส่งผลเป็นราคาทองคำที่ปิดบวกติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 อีกด้วย
สาเหตุจากนักลงทุนกลับลดน้ำหนักของโอกาสที่ลดน้อยลงมากในการลดดอกเบี้ยระยะสั้นในปีนี้ของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ขณะนี้ ตลาดมองโอกาสการลดดอกเบี้ยดังกล่าวมีสูงถึง 71% จะเกิดขึ้นครั้งแรกในเดือนกันยายน หลังจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน และกรกฎาคม
ขณะที่ นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักปัจจัยสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน โดยเฉพาะหลังการตอบโต้ของอิสราเอลกลับไปยังอิหร่านเมื่อวานนี้ ครบ 7 วันของการเปิดฉากโจมตีก่อนของอิหร่านเมื่อวันที่ 13 เมษายนเป็นต้นมา
ด้านผลตอบแทนพันธบัตรรัฐสหรัฐอายุ 10 ปี ยังทรงตัวสูงรอบ 5 เดือน และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังจากตัวเลขยอดขายปลีกเดือนมีนาคมในสหรัฐเพิ่มขึ้นเหนือคาดการณ์ สะท้อนความกังวลว่าการลดดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐในปีนี้อาจล่าช้า ธนาคารยักษ์ใหญ่เริ่มทบทวนจำนวนครั้งที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลดน้อยลงกว่าที่คาดไว้ โดยมองว่าจะลดดอกเบี้ยเพียงไม่ถึง 2 ครั้งจากเดิมคาดว่าจะลด 3 ครั้งในปีนี้
สภาทองคำโลก หรือดับเบิลยูจีซี (WGC) เปิดเผยว่า ธนาคารกลางจีนแผ่นดินใหญ่ซื้อทองคำแท่งอีก 160,000 เมตริกตันเข้าสะสมในทุนสำรองระหว่างประเทศเมื่อเดือนมีนาคม 2024 นับเป็นเดือนที่ 17 ต่อเนื่อง เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ และความเสี่ยงเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ธนาคารกลางอินเดีย ตุรกี คาซัคสถาน และอื่นๆในทวีปยุโรปตะวันออกเพิ่มการซื้อทองคำเข้าทุนสำรองระหว่างประเทศด้วย
ทั้งนี้ ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงในเดือนกันยายนนี้อยู่ที่ 71%