นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี นำว่าที่รัฐมนตรีในรัฐบาล “อนุทิน 1” โดยเฉพาะ “ดรีมทีมเศรษฐกิจ” เข้ามาพบปะหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดยระบุว่า แม้รัฐบาลชุดนี้จะยังไม่ได้เข้ามาทำงานอย่างเต็มตัว แต่ก็จะพยายามทำงานให้ไว ซึ่งแม้ขณะนี้ การตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการนำรายชื่อรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งจะเกิดขึ้นภายในสัปดาห์นี้ แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา จึงได้ประสานกับ ส.อ.ท.เพื่อมาร่วมหารือถึงแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมร่วมกัน โดยตั้งใจมารับฟังข้อห่วงใย และข้อเสนอแนะต่าง ๆ จากภาคเอกชน
อย่างไรก็ดี แม้ยังไม่ได้ทำงานอย่างเต็มตัว แต่หลังไมค์ พยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ สไตล์ของพวกเราทุกคนคงทราบว่า เราทำงานเร็ว ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ท่านทั้งหลายคาดหวังเอาไว้…รัฐบาลกับผู้นำทางเศรษฐกิจของประเทศ ต้องไปคู่กัน แยกกันไม่ได้ เราต้องเอาภาคเศรษฐกิจในการขับเคลื่อนประเทศไทย เพื่อทำให้เกิดความมั่นคงแข็งแกร่งในมิติอื่น ๆ เช่น คุณภาพชีวิตที่ดี
นโยบายของรัฐบาลที่กำลังเกิดขึ้น มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น และการวางรากฐาน เพื่อการต่อยอดความมั่นคงระยะยาว และขยายความร่วมมือ ดังนั้น ขณะนี้การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ต้องให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาผู้ประกอบการ ซึ่งไทย-กัมพูชา ยังมีการค้าขายกันอยู่ แต่ด้วยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจนถึงทุกวันนี้ และด้วยเงื่อนไขข้อจำกัดต่าง ๆ จึงทำให้การเปิดด่านยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในระยะสั้นนี้
ทั้งนี้นายอนุทิน ยืนยันว่า จะขับเคลื่อนการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่อยู่ในโครงการไทยแลนด์พลัสวัน และพร้อมสนับสนุนเจรจากับประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐฯ ขณะเดียวกันก็ต้องให้ความสำคัญกับคู่แข่งทางการค้าในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) และต้องหารือกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในเรื่องส่งเสริมการลงทุนด้วย โดยรัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ทำเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า การเป็นหนึ่งเดียวของรัฐบาลสามารถฟันฝ่าอุปสรรคไปได้ ที่ผ่านมา ตนอยู่มาในรัฐบาล 6 ปีกว่า มองเห็นปัญหาต่าง ๆ มากมาย ซึ่งปัญหาที่สำคัญสุด คือ การระแวงซึ่งกันและกัน ดังนั้นจึงขอให้ความมั่นใจว่า สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้
นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้ทีมงานของนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ไปหารือในรายละเอียดกับ ส.อ.ท.ไว้ก่อนในช่วงบ่ายนี้ เพื่อพิจารณาถึงผลกระทบต่อภาคการส่งออก และแนวทางในการแก้ไขสถานการณ์ ซึ่งเมื่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการแล้ว จะได้เริ่มงานได้ทันที