น้ำมันดิบตลาดโลกซื้อขายเงียบเหงาเหลือกว่า 75 ดอลล์ หยุดราคาปิดเพิ่มขึ้น 2 วันติดกว่า 2 ดอลล์

น้ำมันดิบ ตลาดโลกซื้อขายเงียบเหงาเหลือกว่า 75 ดอลล์ หยุดราคาปิดเพิ่มขึ้น 2 วันติดกว่า 2 ดอลล์

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 75.53 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.02 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.1% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +2.30 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.1% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 79.62 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.25 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.3% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +2.38 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.06%

ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ร่วงมากถึง -1.9% และ -2.5% ตามลำดับ ส่งผลเป็นราคาทองคำรายสัปดาห์ร่วงต่อเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดกัน

ในเดือนพฤษภาคม ราคาน้ำมันดิบโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดดิ่งลง -6% และ -7.1% ตามลำดับ ทำสถิติราคาปิดร่วงลงมากที่สุดในรอบ 6 เดือน หรือนับตั้งแต่พฤศจิกายน 2023 ที่สำคัญ ยังเป็นราคาน้ำมันดิบรายเดือนที่แย่ที่สุดในปีนี้ด้วย

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกแข็งค่าขึ้นถึง 0.8% ทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นอายุ 10 ปี พลิกสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในสหรัฐเมื่อเดือนพฤษภาคมเพิ่มสูงขึ้นถึง 272,000 คน ซึ่งเหนือกว่าที่คาดไว้มากที่น่าจะเพิ่มขึ้นที่ 185,000 คน ตัวเลขดังกล่าวสร้างความผิดหวังอย่างมากให้กับนักลงทุนทองคำ ทำให้โอกาสที่จะเห็นการลดดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐต้องล่าช้ากว่าที่คาด อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานขยับเพิ่มขึ้นเป็น 4.0% จากที่ 3.9% ในเดือนเมษายน

ขณะที่ปัจจัยของผลการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา มีมติลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่อเนื่องไปถึงปี 2025 แต่ให้สิทธิ 8 ประเทศสมาชิกที่ลดกำลังผลิตโดยสมัครใจ สามารถทยอยผ่อนคลายลดการผลิตน้ำมันดิบมีผลตั้งแต่ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ธนาคารโกลด์แมน แซค เปิดเผยว่ามติดังกล่าวส่งผลลบต่อราคาน้ำมันดิบตลาดโลก เนื่องจากการให้สิทธิทั้ง 8 ชาติสมาชิกทยอยผ่อนคลายลดน้ำมันดิบจะทำให้กลับมาเพิ่มกำลังการผลิตท่ามกลางปริมาณสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มมากขึ้น

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันในประเทศไทยมีการปรับลดราคาลงครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567 ผ่านมา โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลง 50 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่ถูกสุดในรอบเกือบ 3 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมผ่านมา

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles