ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านไป พบว่า น้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 71.99 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.52 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.7% ส่งผลราคาปิดขึ้น 5 วันติดกันรวม +4.78 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +6.80% ขณะที่เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ทำสถิติราคาดำดิ่งรายวันที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ปี 3 เดือน หรือตั้งแต่ 12 กรกฎาคม 2022 เป็นต้นมา ซึ่งในวันดังกล่าวมีราคาดำดิ่งเหวมากถึง -7.93% ส่งผลมีราคาปิดต่ำสุดในรอบ 28 วัน หรือตั้งแต่ 1 ตุลาคมเป็นต้นมา
ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 75.53 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.43 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.6% ส่งผลราคาปิดขึ้น 5 วันติดกันรวม +4.78 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +6.55% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 ตลาด ลดลง -3% และ -4% ตามลำดับ
สาเหตุจากพายุโซนร้อนลูกใหม่ชื่อว่าราฟาเอลกำลังเคลื่อนที่เข้าสู่อ่าวเม็กซิโก ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อแหล่งผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐอเมริกา กลุ่มโอเปกพลัสส่งสัญญาณใหม่เกี่ยวกับการชะลอปรับขึ้นกำลังการผลิตของทั้งกลุ่มในเดือนธันวาคมนี้ นักลงทุนเฝ้าติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐหลังปิดคูหาเลือกตั้งไปแล้ว หน่วยข่าวกรองทหารอิสราเอล เปิดเผยว่า อิหร่านเตรียมเปิดการโจมตีกลับมายังอิสราเอลโดยอาศัยการโจมตีจากประเทศอิรักด้วยขีปนาวุธ และโดรนติดจรวด รวมเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจเกิดการโจมตีก่อนหรือใกล้วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ โดยขึ้นราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ +30 สตางค์/ลิตร นับเป็นการขึ้นราคาน้ำมันครั้งแรกใน 6 วันผ่านมา ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่สูงสุดในรอบ 6 วัน หรือตั้งแต่ 31 ตุลาคมผ่านมา