ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า น้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 68.61 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.40 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.08% ส่งผลหยุดราคาปิดลดลง 2 วันติดกันรวม -4.57 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -6.16% ขณะที่เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ทำสถิติราคาดำดิ่งรายวันที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ปี 3 เดือน หรือตั้งแต่ 12 กรกฎาคม 2022 เป็นต้นมา ซึ่งในวันดังกล่าวมีราคาดำดิ่งเหวมากถึง -7.93% ส่งผลมีราคาปิดต่ำสุดในรอบ 28 วัน หรือตั้งแต่ 1 ตุลาคมเป็นต้นมา
ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 72.55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.43 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.01% ส่งผลหยุดราคาปิดลดลง 2 วันติดกันรวม -4.93 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -6.2% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 ตลาด เพิ่มขึ้นมากถึง +3.7% และ +4.0% ตามลำดับ
สาเหตุจากกลุ่มโอเปกพลัสส่งสัญญาณใหม่เกี่ยวกับการชะลอปรับขึ้นกำลังการผลิตของทั้งกลุ่มในเดือนธันวาคมนี้ ขณะที่ปริมาณสำรองน้ำมันสำเร็จรูปรายสัปดาห์ในสหรัฐลดต่ำลงอย่างมากจนเกินความคาดหมายโดยเหลือต่ำสุดในรอบ 2 ปี สอดรับกับปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐลดต่ำลงเหนือคาดหมายจากการลดการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยนำเข้าจากซาอุดีอาระเบียเหลือเพียง 13,000 บาร์เรลต่อวัน ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 3 ปี 9 เดือน หรือตั้งแต่มกราคมปี 2021 ขณะที่ ปัจจัยการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่ใกล้เข้ามาถึงในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ พบว่าคะแนนนิยมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นนำนางกมลา แฮร์ริส เป็นผลสำเร็จที่ 48% ต่อ 46% ตามลำดับ
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 31 ตุลาคม 2567 โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ -50 สตางค์/ลิตร นับเป็นการลดราคาน้ำมันครั้งแรกใน 6 วันผ่านมา ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่ถูกสุดในรอบ 3 สัปดาห์กว่า หรือตั้งแต่ 5 ตุลาคมผ่านมา