ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 9 ธันวาคม 2024 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 68.37 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.7% ส่งผลหยุดราคาปิดลง 3 วันรวมกัน -2.74 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.95% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 72.14 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.02 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.4% ส่งผลหยุดราคาปิดลง 3 วันรวมกัน -2.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.48 % ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้งสองตลาดสำคัญปิดลดลง -1.2% และ -2.5% ตามลำดับ
สาเหตุจากสถานการณ์การเมืองขั้นวิกฤตในประเทศซีเรีย ซึ่งฝ่ายต่อต้านได้ยึดและขับไล่นายอัสซัดกลายเป็นอดีตประธานาธิบดี และหลบหนีพร้อมครอบครัวไปยังประเทศรัสเซีย สิ้นสุดอำนาจและอิทธิพลในการปกครองมาอย่างยาวนานถึง 52 ปี จะส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนสูงภูมิภาคตะวันออกกลาง และอาจนำไปสู่การเกิดสงครามของกลุ่มสนับสนุนและกลุ่มต่อต้านในซีเรีย
นอกจากนี้ คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ หรือโปลิตบูโร และรัฐบาลจีน ได้ส่งสัญญาณจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนเชิงรุกในปี 2025 เช่น การปรับลดดอกเบี้ยสำคัญ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี การแก้วิกฤตอสังหาริมทรัพย์เรื้อรัง เป็นต้น เพื่อตั้งเป้าหมายให้เศรษฐกิจจีนเติบโตที่ระดับ 5% ในปี 2025 โปลิตบูโรจีนจะมีการประชุมประจำปีในช่วงกลางถึงปลายสัปดาห์นี้
กลุ่มโอเปกพลัสมีมติต่ออายุมาตรการลดกำลังการผลิตออกไปเป็นไตรมาสที่ 1 ในปี 2025 หรือถึงสิ้นเดือนเมษายนปี 2025 นับเป็นการตัดสินใจครั้งที่ 3 ต่อเนื่องในการขยายเวลามาตรการดังกล่าว ขณะที่นักวิเคราะห์ประเมินภาวะน้ำมันดิบล้นตลาดที่จะมีขึ้นในปี 2025 มีความชัดเจนมากขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 10 ธันวาคมนี้ โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 30 สตางค์/ลิตร นับเป็นการลดราคาน้ำมันครั้งแรกในรอบ 8 วันผ่านมา และเป็นการลดราคาครั้งที่ 2 ต่อเนื่อง ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันถูกสุดในรอบ 21 วัน หรือตั้งแต่ 20 พฤศจิกายนผ่านมา