บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด คาดว่า SET ได้รับปัจจัยหนุนให้ฟื้นตัวได้ต่อ หลังปธน. ทรัมป์ระงับการขึ้นภาษีต่อแคนนาดาและเม็กซิโกไว้ 1 เดือน อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาในภาพรวมยังเป็นขาลง และยังไม่มีสัญญาณเปลี่ยนแนวโน้ม ทำให้การฟื้นตัวยังมีหลายแนวต้านคอยสกัด โดยล่าสุดอยู่ที่ 1,312 และ 1,320 จุด ตามลำดับ ด้านแนวรับอยู่ที่ 1,280-1,290 จุด
โดยในช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1, 350 จุด โดยแม้ภาพการลงทุนในตลาดต่างประเทศจะได้รับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและผลประกอบการนอกกลุ่มการเงินของ บจ. สหรัฐที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจากการปรับลดดอกเบี้ยที่ค่อยเป็นค่อยไป แต่ในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่มาช่วยหนุนบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทย ทั้งนี้สถานการณ์การส่งออกไทยน่าจะมีความเสี่ยงมากขึ้นจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐและเงินเฟ้อที่ต่ำ ทำให้เศรษฐกิจไทยยังไม่โดดเด่นมากนัก ส่งผลให้ผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยยัง Underperform ตลาดหุ้นทั่วโลก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
โดยยังต้องติดตามประเด็น ปธน. ทรัมป์ ชะลอเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 1 เดือน หลัง 2 ประเทศเสนอเพิ่มกำลังควบคุมแนวชายแดนเพื่อดูแลปัญหาการอพยพและยาเสพติด ทำให้นักลงทุนคลายกังวลด้านอุปทานน้ำมัน
OPEC+ มีมติคงนโยบายการผลิตตามคาด ส่งผลให้ OPEC+ ยังคงลดกำลังผลิตรวม 5.86 ล้านบาร์เรล/วัน แบ่งเป็นของ OPEC+ 2 ล้านบาร์เรล/วัน และการปรับลดโดยสมัครใจของสมาชิก OPEC+ 8 ชาติ 1.65 ล้านบาร์เรล/วันในรอบแรก และ 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน ในรอบที่ 2
รมช. คลังกล่าวถึงการปรับลดของดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ว่าในระยะสั้นไม่น่ากังวล เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีซึ่งมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และอยากให้มองระยะยาวมากกว่า แม้ระยะข้างหน้าจะยังมีความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์
ธปท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ม.ค. ที่ 48.5 ทรงตัวจากเดือนก่อน จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนที่ลดลง แต่กดดันจากภาคที่ไม่ใช่การผลิตจากการชะลอตัวการบริโภคเนื่องจากรอ Easy e-Receipt
สสว.เผยภาระหนี้สินของ SME 4Q67 มีสัดส่วนทรงตัวที่ 65.0% ชี้ปัญหากำลังซื้อต่ำ-พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน และการแข่งขันสูงกระทบผู้ประกอบการ จี้รัฐควรเร่งออกมาตรการหนุนการเข้าถึงสินเชื่อ
รมช. คลัง เผยเตรียมหารือกับ ธปท. เกี่ยวกับมาตรการเพื่อรองรับการแก้ปัญหาปฏิเสธสินเชื่อรถยนต์ โดยเฉพาะรถกระบะ หลังยอดปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 70% เป็นสาเหตุทำให้ยอดผลิตรถยนต์ในประเทศชะลอตัว
ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์เผยเศรษฐกิจไทยยังมีอนาคต ภาคท่องเที่ยวจะเป็นภาคส่วนที่นำเงินเข้าไทยได้เร็วที่สุด แนะนำจัดสรรงบฯ ส่งเสริมภาคเกษตรและใช้ AI รวมถึงหนุนพลังงานนิวเคลียร์
ทั้งนี้มอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์หลังไร้ปัจจัยหนุนใหม่ โดยมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1350 จุด กลยุทธ์ลงทุนแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 2 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้
1. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคของรัฐอย่าง Easy E-Receipt ในช่วง 16 ม.ค.-28 ก.พ. 2568 และแจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้ผู้สูงอายุ แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CRC HMPRO TNP) กลุ่มท่องเที่ยว (MINT AWC ERW AOT)
2. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นปันผลสูงซึ่งคาดมีเงินปันผลจ่ายที่เหลือจากกำไรปี 2567 คิดเป็น Div. Yield เกิน 3% เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุน แนะนำ AP KTB BBL PTT
3. หุ้น Earnings Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนกำไร 4Q67-1Q68 ที่คาดจะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งยังมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ เลือก ADVANC TRUE AMATA TIDLOR MTC AU HTC
4. Trading Idea : นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรใน 1) หุ้นที่คาดมีโอกาสเพิ่มอัตราการจ่ายปันผล หรือ ซื้อหุ้นคืน เนื่องจากมี PBV ต่ำกว่า 1 เท่า และมีสภาพคล่องทางการเงินสูง เลือก PTT KBANK BBL และ 2) หุ้น Mid-Small Cap. ที่ราคาหุ้นปรับลง YTD มากกว่าตลาด แต่ 4Q67 และปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตดีและมีฐานะการเงินแกร่ง เลือก AMATA AU BCH BLA TIDLOR
หุ้นเด่น มอง เป็น AOT: มองกำไรมีแนวโน้มเติบโตสดใสตามจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยปี FY2568 คาดกำไรจะเติบโต 18%YoY อิงจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ 84 ล้านคน เติบโต 15%YoY ซึ่ง 1QFY68 คาดกำไรปกติที่ 5.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%YoY และ 25%QoQ แรงหนุนจากเข้าสู่ High Season ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
KBANK: มีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นหลังวางแผนปรับอัตราการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นในระดับปานกลางเพื่อเพิ่ม ROE โดยเราคาดเงินปันผลสำหรับงวด 2H67 ที่ 9 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. Yield สูงราว 5.7% ปี 2568 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้น 5%YoY แรงหนุนจาก Credit Cost ที่ลดลง และรายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโตดี ทั้งนี้วันนี้แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรราคาไม่เกิน 160 บาท