สมาคมค้าทองคำประกาศ ราคาทอง ในประเทศวันนี้ ปิดตลาด ปรับขึ้น 100 บาท มีการปรับราคา 2 ครั้ง โดยทองคำในประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง และได้ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อ 34,400 บาท และขายออก 34,500.00 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 33,776.48 บาท ขายออก 35,000.00 บาท อ้างอิงตลาดสปอตที่ 2,034.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และค่าเงินบาท 35.85 บาท/ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคําค่อนข้างผันผวน โดยในช่วงต้นตลาด Comex ราคาทองคําเหวี่ยงลงไปทดสอบจุดตํ่าสุดที่บริเวณ 2,020 เหรียญอีกครั้ง เรียกได้ว่าราคาทองคําค่อนข้างมีการแกว่งตัวอย่างมาก ก่อนจะมีแรงซื้อกลับมาปิดตลาดที่บริเวณ 2,033 เหรียญได้ โดยเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2,034 เหรียญ
ขณะที่ภาพรวมดัชนีดอลลาร์ยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 104.03 จุด ก่อนจะปิดที่ระดับ 104.17 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 104.17 จุด ทําให้ค่าเงินบาทยังอยู่ในทิศทางที่อ่อนค่าขึ้นต่อเนื่อง โดยค่าเงินบาทเมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 35.61 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะขึ้นไปทําจุดสูงสุดที่ระดับ 35.94 บาทต่อดอลลาร์ และปิดที่ระดับ 35.86 บาทต่อดอลลารื ขณะที่เช้านี้อ่อนค่าขึ้นอยู่ที่ 35.94 บาทต่อดอลลาร์ ใกล้เคียงกับ 36 บาทต่อดอลลาร์ในเชิงเทคนิคค่าเงินบาทเบรก
แนวต้านระยะสั้นขึ้นมาจากระดับ 35.80 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 37.36 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนตุลาคม ขณะที่ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ต่อปี โดยกนง.ยังมองว่าภาคการบริโภคของประขาชนยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แม้เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับตํ่า ในส่วนของกองทุนทองคํา SPDR เมื่อวานนี้ซื้อเข้า 1.44 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 843.66 ตัน ขณะที่วันนี้เป็นวันตรุษจีนคาดว่าน่าจะมีแรงบริโภคจากจีนค่อนข้างมาก ในทางเทคนิคราคาทองคํายังคงทรงตัวอย่างไร้ทิศทางในกรอบ Sideways ระหว่าง 2,020-2,040 เหรียญ โดยมีแนวต้านแข็งแกร่งที่ระดับ 2,035-2,040 เหรียญ และแนวรับแข็งแกร่งที่ระดับ 2,010-2,020 เหรียญ
ขณะเดียวกัน ราคาทองในประเทศพุ่งแรง ได้รับแรงหนุนจากค่าเงินบาทอ่อนค่า หลังค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าตามบอนด์ยีลด์ที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่เมื่อคืนนี้ที่ประกาศออกมาดี ยอดต่ำกว่าที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ สมาคมค้าทองคำ ให้ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยสหรัฐฯ และอิหร่านมีความเสี่ยงที่จะเผชิญหน้าทางทหารโดยตรง หลังกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านส่งโดรนโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในจอร์แดน อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า กำลังมีการเจรจาข้อตกลงพักรบระหว่างอิสราเอล กับกลุ่มฮามาส รวมถึงการปล่อยตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสจับไว้ โดยข้อตกลงนี้อาจเป็นก้าวสำคัญในการยุติความขัดแย้ง รวมถึง การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย ในวันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยอาจส่งสัญญาณพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจน รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนี ISM/PMI ภาคบริการของเดือน มกราคม 2567 และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์