นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัญหาการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศที่มีราคาถูก และไม่ได้มาตรฐาน ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ อยู่ระหว่างการจัดทำแนวทางและข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการแก้ปัญหาในภาพรวมรวมทั้งเตรียมจัดตั้งคณะทำงานระดับชาติเพื่อขับเคลื่อนมาตรการแก้ปัญหาที่มีผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ในสัปดาห์หน้า เพื่อให้เกิดการบูรณาการแก้ปัญหาร่วมกัน และแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แต่การแก้ปัญหาต้องคำนึงถึงการค้าที่เป็นธรรม สอดคลองกับพันธกรณีและความตกลงระหว่างประเทศด้วย โดยผู้ประกอบการได้ให้ข้อมูลปัญหา และผลกระทบจากสินค้านำเข้าที่มีต่อผู้ผลิตสินค้า ภาคบริการ การลงทุน และผู้บริโภค จากปัญหามาตรฐานสินค้าคุณภาพต่ำและราคาถูก การลักลอบนำเข้าสินค้าทางชายแดน การสำแดงพิกัดสินค้าที่เป็นเท็จ รวมถึงการเข้ามาตั้งธุรกิจบริการและภาคการผลิตที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศและผู้บริโภคไทย
โดยผู้ประกอบการได้เสนอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มงวดใตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานของสินค้านำเข้า การสร้างความเข้มแข็งให้ประกอบการไทยด้านการผลิตและศักยภาพการประกอบธุรกิจ เพื่อให้สินค้าและธุรกิจไทยรักษาส่วนแบ่งตลาดได้ และการปรับปรุงกฎหมาย รวมถึงความตกลงระหว่างประเทศที่ไทยทำกับประเทศต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าไทย
ส่วนกลุ่มสินค้าที่จำเป็นต้องนำเข้ามาใช้เพื่อผลิตสินค้าสำเร็จรูปในประเทศ เช่น สินค้าทุน วัตถุดิบ ฯลฯ หากหน่วยงานภาครัฐจะใช้มาตรการใดๆ ขอให้พิจารณากระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้นำเข้า ผู้ใช้ และผู้บริโภคด้วย เพราะสินค้าดังกล่าวมีความจำเป็นต้องนำเข้ามาใช้
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 67 กรมได้จัดการประชุมร่วมกับภาคเอกชน 30 กลุ่มธุรกิจ เช่น พลาสติกเครื่องนุ่งห่ม ของขวัญของชำร่วย เครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงาน เครื่องปรับอากาศ เหล็ก เครื่องจักรกลและโลหะการ เซรามิก แกรนิตและหินอ่อน เครื่องสำอาง อาหารเสริม เฟอร์นิเจอร์ เป็นตน เพื่อรับฟังสถานการณ์การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ และการแข่งขันทางการค้าระหว่างสินค้าเอสเอ็มอีไทยกับสินค้านำเข้า รวมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ปัญหาการแข่งขันของสินค้าไทยและต่างประเทศ ทั้งในด้านคุณภาพ และราคา โดยกรมจะรวบรวมทุกความเห็น นำเสนอในระดับนโยบาย เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาร่วมกัน
สำหรับการใช้มาตรการเยียวยาทางการค้า ทั้งมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) มาตรการตอบโต้การอุดหนุน (ซีวีดี) และมาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (เซฟการ์ด) ที่ภาคเอกชนเรียกร้องให้กรมใช้นั้น ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการเข้าใจกระบวนการไต่สวน รวมทั้งผลกระทบจากการใช้มาตรการ โดยหากผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากสินค้านำเข้าที่มีราคาไม่เป็นธรรม หรือสินค้านำเข้าทะลักเข้าไทยจำนวนมาก สามารถยื่นคำขอใช้มาตรการดังกล่าวได้ ซึ่งต้องมีเอกสารหลักฐานที่เพียงพอและน่าเชื่อถือ และจะเปิดไต่สวนเพื่อใช้มาตรการได้ อย่างไรก็ตามกรมจะจัดการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย วิธีการยื่นคำขอและไต่สวนด้วย