นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร จะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในวันนี้ ไม่ได้มีการถอน ซึ่งคงมีการคุยกัน โดยในชุดทำงานของตนได้หารือกันอย่างละเอียด ถึงความจำเป็นและประโยชน์ เราเห็นชัดเจนเลยว่า เพื่อการแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ที่เขาทำอยู่ว่าได้ผลเยอะกว่า เมื่อมีสิ่งที่เราให้ความสนใจ ต้องดูแลกำกับ จริง ๆ แล้วทั่วโลก พื้นที่ที่ใช้สําหรับเกมรูมหรือความสนุกสนานทางนั้น เป็นเพียงพื้นที่ส่วนน้อย และวันนี้ทั้งโลก รายได้ที่มาจากเอ็นเตอร์เทนและเรื่องอื่น ๆ จำนวนมาก
นายพิชัย กล่าวด้วยว่า เชิงหลักการทุกคนเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ เห็นด้วยกับโครงการ อาจจะมีไม่ขัดข้องสัก 1-2 ราย แต่ที่เหลือเห็นด้วยหมด มีข้อสังเกตตรงกับหน่วยงานที่ดูแลอยู่ ห่วงเรื่องกาสิโน กลัวคนไทยหรือเด็กจะเข้าไปเล่น อายุได้หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่รับไว้ ซึ่งเข้าใจว่ามีคณะกรรมการนโยบายและหน่วยงานคอยดูแลอยู่ ดังนั้น จะหยิบเรื่องนี้มาดูว่าจะกำกับอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องดูแลอยู่แล้ว ทั้งนี้ เราไม่ได้สนับสนุน แต่สิ่งที่ตั้งใจคือให้ต่างประเทศเข้ามาใช้เงินมากกว่า
ส่วนกรณีทำไมไม่ออกกฏหมายกาสิโนโดยตรง แบบนี้เหมือนเอาการท่องเที่ยวมาบังหน้า นายพิชัย กล่าวว่า ไม่ใช่ คิดว่าหลายอย่างเป็นเรื่องของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ให้ลองตั้งข้อสังเกตดูว่า ในห้างสรรพสินค้ามีใครเข้าไปซื้อสินค้าจริง ๆ บ้าง ทุกคนปรับตัวหมด แม้แต่ในห้างใหญ่ เดี๋ยวนี้ก็ออกแนวหลากหลาย เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ในตัวตัวเอง ทั้งศูนย์อาหาร การแสดงให้เด็กดู นอกเหนือจากการช้อปปิ้ง เพียงแต่อันนี้ เป็นขนาดใหญ่ เพราะฉะนั้นต้องทำงานร่วมกัน องค์ประกอบในเนื้อที่ขนาดใหญ่อย่างนี้ ต้องดูแลให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงต้องออกกฎหมายมากำกับดูแล
เมื่อถามว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ กับกฎหมายพนันออนไลน์ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกําลังทํา เป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า เป็นคนละเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ต้องตรงไปตรงมา คิดว่าการกำกับคงได้มาตรฐาน ยืนยันว่าเรื่องกาสิโนเป็นเพียงส่วนน้อย รายได้ส่วนใหญ่จะมาจากเรื่องอื่น อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง และหากอยู่ในที่เหมาะสม บริเวณใกล้เคียงก็จะได้รับอานิสงส์ด้วย