นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่ากระทรวงการคลัง มีนโยบายที่จะปรับปรุงเงื่อนไขกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ใหม่เพื่อให้มีความเหมาะสม และดึงดูดนักลงทุนได้มากขึ้น จากปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 1.8 แสนล้านบาท ซึ่งอาจจะโอนหรือจัดตั้งใหม่มาอยู่ใน Thai ESG
โดยกองทุน LTF ที่ตั้งมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการลดหย่อนภาษีตอนนี้ดัชนีหุ้นก็ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างที่จะมาก นักลงทุนก็มีการขายออก หุ้นส่วนใหญ่ที่อยู่ในกองทุน LTF ก็จะอยู่ในดัชนี SET 100 ในหุ้นตัวใหญ่
“คนที่จะขาย จะได้หยุดคิดว่า ไม่ขายดีหรือไม่ เพราะว่าถ้าอยู่ใน Thai ESG ก็จะได้ประโยชน์อีกครั้งหนึ่ง เช่น 5 ปี เป็นต้น เรากำลังดูอยู่ให้กี่ปีดี จะรีบออกมาโดยไว และหุ้นก็ลงเยอะ เมื่อมาลงอยู่ Thai ESG ก็ยังได้ประโยชน์ทางภาษี ก็จะปรับปรุง LTF โดยจะตั้ง Thai ESG อีกสักกอง เพื่อให้มาลงฝั่งนี้แทน ก็ฝากให้นักลงทุนลองพิจารณาดู”
ส่วนความคืบหน้าแนวคิดออกพันธบัตรดิจิทัล หรือ “บอนด์คอยน์” ว่าเป็นกลไกธรรมดาที่รัฐบาลได้มีการออกพันธบัตรอยู่แล้วให้รายย่อยได้ลงทุน ซึ่งนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ก็เก็บไว้ในลิ้นชัก แต่ครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มทางเลือก ซึ่งแทนที่จะเก็บไว้ในลิ้นชัก แต่สามารถใส่ไว้ในวอลเล็ตที่สามารถเข้าระบบแลกเปลี่ยนได้ เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่ง โดยขณะนี้หลายประเทศก็เริ่มคิด เริ่มทำกันแล้ว