นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัท โกลัค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือหุ้นผ่านบริษัทย่อยของ PTG ได้รับสิทธิ์ มาสเตอร์ แฟรนไชส์ ซับเวย์ (SUBWAY) ในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว คาดจะใช้งบลงทุน 2,300 – 2,500 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาอีก 500 แห่งในช่วง 10 ปีนี้ หรือเฉลี่ยเปิดใหม่ปีละ 50 สาขา แต่ในช่วงที่เหลือปี 67 นี้ คาดว่าจะสามารถเปิดได้ 20-30 สาขา ทั้งนี้ปัจจุบัน SUBWAY มีสาขารวม 148 สาขา
สำหรับสาขาใหม่จะใช้เงินลงทุนเบื้องต้นสาขาละ 4-5 ล้านบาท สำหรับพื้นที่ 50 ตารางเมตร คาดหวังรายได้ปีละ 10 ล้านบาท/สาขา ซึ่งการเปิดสาขาจะขึ้นกับ “โกลัค” โดยไม่จำเป็นต้องเปิดสาขาในปั๊ม PT เท่านั้น แต่ปั๊ม PT จะเป็นอีกช่องทางที่ช่วยขยายสาขาให้เพิ่มมากขึ้น
ซับเวย์เป็นธุรกิจ F&B ซึ่งเป็น 1 ใน 8 ธุรกิจหลักที่ PTG ตั้งเป้าที่จะเข้าลงทุนตามแผน Diversify Portfolio เพื่อขยายกลุ่มธุรกิจ Non-Oil ให้เติบโตมากขึ้น ซึ่งในอนาคตบริษัท โกลัค จำกัด จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ รวมถึงต่อยอดและขยายธุรกิจกลุ่ม F&B ของ PTG ที่มีอยู่เดิมให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อเสริม Max World ให้แข็งแกร่งมากขึ้น และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกคนให้ได้มีโอกาสเข้าถึงชีวิตที่ “อยู่ดี มีสุข” ในทุกด้านของช่วงชีวิต
นางสาวเพชรัตน์ อุทัยสาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลัค จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้เปิดตัวเป็นผู้ดำเนินการ “มาสเตอร์ แฟรนไชส์ ซับเวย์” ในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว บริษัทฯ ตั้งเป้าจะเป็นผู้ให้บริการธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ติดอันดับ 1 ใน 3 ภายใน 3ปีนี้ (ปี67-69) จากปัจจุบันอยู่อันดับที่ 5-6 ในอนาคตบริษัทฯ มองการขยายสาขาทั้งในปั๊ม PT รวมไปถึงหัวเมืองหลักทั่วประเทศ โดยเน้นที่ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ออฟฟิศ สนามบิน โรงพยาบาล รวมไปถึงรูปแบบ Stand Alone เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า และสร้างการเข้าถึงร้านซับเวย์ โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ วัยรุ่น คนทำงาน และกลุ่มครอบครัว
นอกจากนี้ในช่วง มิ.ยนี้ จะนำรูปแบบ “ไดร์ฟทรู” มาใช้ด้วยเช่นกัน โดยทางบริษัทฯ จะเปิดไดร์ฟทรูสาขาแรกในประเทศไทย ภายในสถานีบริการน้ำมันเรือธงของ PT ที่นครชัยศรี ภายในปีนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคในปัจจุบัน และยังคงมุ่งเน้นทำเลที่สะดวกเข้าถึงง่าย และมองเห็นเด่นชัด
ทั้งนี้ แบรนด์ SUBWAY มีจุดยืนในเรื่องของการเป็น Healthy Choice ให้ลูกค้าได้ทานอาหารที่อร่อย เสิร์ฟ สด ใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Eat Fresh, Feel Good” ซึ่งร้านซับเวย์เป็น QSR เดียว ที่อบขนมปัง สด ใหม่ ในร้านทุกวัน โดยนำเข้าจากต่างประเทศ มีให้เลือกมากถึง 5 ชนิด รวมถึงขนมปังโฮลวีต มีเนื้อสัตว์หลากหลาย เช่น ทูน่า ไก่ เนื้อ ที่ไม่ผ่านการแปรรูป พร้อมผักสดหลากหลายชนิด มีซอสให้เลือกมากถึง 12 แบบ โดยลูกค้าสามารถเลือกทานได้ทั้งในรูปแบบ แซนวิช แรป หรือสลัด พร้อมคุกกี้ 4 รสชาติ
เราเน้นให้ลูกค้าสั่งเมนูยอดนิยม อร่อยตามสูตรของซับเวย์โดยไม่ต้องเลือก เช่น แซนวิชทูน่า, ไก่เทอริยากิ, สเต็ก แอนด์ ชีส และอื่น ๆ อย่างไรก็ตามลูกค้าที่ต้องการ DIY ยังสามารถเลือกเมนูได้ตามใจชอบเช่นเดิม นอกจากนี้ทางเราจะมุ่งเน้นในเรื่อง Value Campaign เพื่อขยายฐานลูกค้า และเพิ่มการกลับมาซื้อซ้ำ โดยมีการนำเสนอขาย combo เป็นชุด รวมทั้งโปรโมชั่นต่าง ๆ เพิ่มความหลากหลายของเมนู Snack และ Finger Food
“เรามีความมุ่งมั่นในการเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าผ่านการขยายสาขา เพิ่มช่องทาง Online, Mobile Application, Self-Ordering Kiosk, QR Ordering, Order and Pick Up, E Wallet และ CRM ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยการใช้ Max World Ecosystem ที่แข็งแกร่งของ PTG ในเรื่องจำนวนสาขา และจำนวนสมาชิก ถือเป็นกำลังหลักในการทำให้เราได้รู้จักลูกค้ามากขึ้น รวดเร็วขึ้น ผ่านระบบ CRM จากฐานลูกค้าผ่านสมาชิกบัตร PT Max Card ที่มีมากกว่า 21 ล้านสมาชิก” นางสาวเพชรัตน์กล่าว