บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวสมาร์ตโฟนปรินเตอร์รุ่นล่าสุด instax mini Link 3 ที่สามารถปรินต์ภาพจากสมาร์ตโฟนลงบนฟิล์ม instax ขนาดมินิ โดย Link 3 เป็นรุ่นที่ 3 ของซีรีส์ instax mini Link ที่ผู้ใช้งานทั่วโลกชื่นชอบด้วยหลากหลายลูกเล่นที่ทำให้ความทรงจำระหว่างกลุ่มเพื่อนพิเศษกว่าเคย ตัวกล้องมาพร้อมสองฟีเจอร์ใหม่ ได้แก่ instax AiR Studio ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายรูปด้วยเอฟเฟกต์ AR แบบ 3 มิติลงในภาพถ่ายได้ และ Click to Collage ที่สร้างภาพปะต่อจากหลาย ๆ ช็อต เหมือนการถ่ายรูปที่โฟโต้บูธ โดยฟังก์ชันใหม่เหล่านี้ช่วยมอบช่วงเวลาสนุก ๆ ให้กลุ่มเพื่อนทั้งกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ ทำให้การถ่ายและปรินต์ภาพสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน โดยฟูจิฟิล์มจะจัดกิจกรรมพิเศษให้ผู้ที่สนใจได้มาทดลองใช้งานฟังก์ชันเหล่านี้ที่ Libi Home ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม – 10 กันยายน เวลา 9.00 – 18.00 น.
ดีไซน์ตัวเครื่องรุ่นใหม่วางโลโก้ instax ไว้บนลายเส้นแนวตั้งอันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ mini Link พร้อมด้วยไฟ LED สามสีบนโลโก้ที่จะสว่างขึ้นเมื่อเปิดเครื่อง สะท้อนความสนุกสนานตามแบบฉบับของ Link 3 ได้เป็นอย่างดี โดยตัวเครื่องของ Link 3 มาใน 3 สีสันที่เข้ากับยุคสมัย ได้แก่ สีขาว CLAY WHITE, สีชมพู ROSE PINK และสีเขียว SAGE GREEN ตอบโจทย์ความชอบและสะท้อนตัวตนของผู้ใช้แต่ละคน
นอกจากนี้ ฟูจิฟิล์ม ยังประกาศวางจำหน่ายฟิล์มขนาดมินิรุ่นใหม่ “SPRINKLES” ที่จะเพิ่มความสนุกให้กับการถ่ายภาพด้วยดีไซน์สีสันสดใสที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลวดลายเม็ดน้ำตาลตกแต่งขนมหลากสีสัน ซึ่งเป็นหนึ่งในเอฟเฟกต์ AR ใน instax AiR Studio อีกด้วย
คุณสมบัติหลักของ instax mini Link 3
1. ปรินต์ภาพนิ่งหรือช็อตจากวิดีโอได้อย่างสะดวก
ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรูปภาพที่เก็บไว้ในสมาร์ตโฟนก่อนจะปรินต์ออกมาได้สะดวกสบายผ่านแอปที่ใช้งานง่าย จะเพิ่มหรือลดขนาด หมุนภาพ ใส่ฟิลเตอร์ หรือปรับความสว่างก็ทำได้ดั่งใจ นอกจากนี้ยังใช้แอปเพื่อนำเข้าและแก้ไขวิดีโอในสมาร์ตโฟนได้ หรือจะเลื่อนดูเฟรมวิดีโอเพื่อเลือกปรินต์ช็อตที่ดีที่สุดได้เช่นกัน
2. ตกแต่งรูปถ่ายด้วยเอฟเฟกต์ AR สามมิติ ผ่านฟังก์ชัน instax AiR Studio
– ฟังก์ชันนี้ช่วยให้ผู้ใช้ผสมผสานเอฟเฟกต์ AR แบบสามมิติได้ตามต้องการเพื่อตกแต่งรูปผ่านฟีเจอร์ instax AiR Studio และสนุกกับการถ่ายภาพ วิดีโอ รวมถึงภาพปะต่อ
– มีเอฟเฟกต์ AR ให้เลือกใช้ 3 แบบ ได้แก่ “Back” สำหรับสร้างฉากหลัง “Decor” สำหรับตกแต่งบริเวณรอบ ๆ และ “Effect” สำหรับสร้างภาพถ่ายที่โดนใจด้วยเอฟเฟกต์ AR ที่เคลื่อนไหวได้ จะเลือกใช้เอฟเฟกต์ AR เพียงอย่างเดียว หรือผสมผสานหลาย ๆ อย่างเพื่อตกแต่งก็ทำได้ตามใจ
– ฟังก์ชัน Remote Live View ช่วยให้ผู้ใช้แชร์ภาพจากกล้องกับคนอื่น โดยการสแกนคิวอาร์โค้ดด้วยสมาร์ตโฟนอีกเครื่องจะเป็นการแชร์วิดีโอแบบเรียลไทม์กับคนที่อยู่ในเฟรม พร้อมกับดูเอฟเฟกต์ AR ไปด้วยได้
3. เสกภาพที่ถ่ายให้เป็นสไตล์ภาพปะต่อเหมือนถ่ายที่โฟโต้บูธด้วยฟังก์ชัน Click to Collage
– ฟีเจอร์ Click to Collage ช่วยให้ผู้ใช้สร้างภาพปะต่อได้ผ่านแอปได้โดยสามารถเปลี่ยนท่าทางตอนถ่ายภาพได้สูงสุด 6 ภาพ และมีการนับถอยหลัง 3-2-1 แสดงบนหน้าจอในการถ่ายแต่ละรูป เป็นการเก็บช่วงเวลาแห่งความสุขที่ไม่เหมือนใคร คล้ายกับการถ่ายภาพในโฟโต้บูธ
– เมื่อปรินต์ภาพปะต่อที่สร้างขึ้นด้วย Link 3 ฟีเจอร์ instax Animation จะรวมแต่ละภาพเข้าด้วยกันเป็นวิดีโอแบบ
ฟลิปบุ๊ก โดยผู้ใช้สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดที่ปรินต์บนภาพ instax เพื่อดูวิดีโอ, ปรินต์รูปจากวิดีโอฟลิปบุ๊กให้กับเพื่อนและครอบครัว หรือจะกดแชร์ลงในโซเชียลมีเดียก็ทำได้
4. สนุกกับการปรินต์ภาพไปอีกขั้นด้วย instax UP! เวอร์ชันใหม่
แอป instax UP! ได้รับการอัปเกรดเป็นเวอร์ชันใหม่เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ซึ่งสามารถแปลงภาพปรินต์ instax เป็นไฟล์ดิจิทัลได้อย่างง่ายดายผ่านการสแกนภาพปรินต์รวมถึงกรอบภาพ โดยยังได้โทนสีอันนุ่มนวลเป็นเอกลักษณ์ของ instax แอปนี้สามารถเชื่อมต่อกับแอปของ Link 3 ได้ จึงส่งภาพปรินต์ instax จากแอปไปยัง instax UP! เพื่อเก็บไฟล์ในรูปแบบดิจิทัลได้
การอัปเดตล่าสุดได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า instax Days ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สร้างปฏิทินส่วนตัวด้วยการเพิ่มชื่อกิจกรรมลงในภาพปรินต์ instax ที่ถ่ายไว้ โดยสามารถจัดเรียงภาพที่สแกนไว้หรือส่งมาจากแอป Link 3 ตามวันที่ได้ ทำให้ย้อนกลับไปดูความทรงจำได้สะดวก นอกจากนี้ instax Days ยังเพิ่มความสนุกในการปรินต์ภาพ instax เพราะสามารถโพสต์ปฏิทินของตนเองไปยังโซเชียลมีเดียได้โดยตรงผ่าน instax UP! เพื่อแชร์กับเพื่อน ๆ ได้