นายวิเชียร แก้วสมบัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลกระทบของนโยบายทรัมป์ 2.0 ต่อ GDP ของไทย จากการลดลงของมูลค่าการส่งออก (ทั้งทางตรงและทางอ้อม) อาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงบางส่วน โดยศูนย์พยากรณ์ฯ คาดว่า จะมีผลกระทบต่อ GDP ไทยลดลง 0.87% คิดเป็นมูลค่ารวมลดลง 160,472 ล้านบาท (แบ่งเป็น 1. ผลกระทบทางตรง การส่งออกสินค้าของไทยไปยังตลาดสหรัฐฯ ลดลง 108,714 ล้านบาท และ 2. ผลกระทบทางอ้อม การส่งออกวัตถุดิบของไทยในห่วงโซ่อุปทานจีน-สหรัฐฯ ลดลง 49,105 ล้านบาท และการส่งออกวัตถุดิบของไทยในห่วงโซ่อุปทานสหรัฐฯ-จีน ลดลง 2,653 ล้านบาท)
สำหรับผลกระทบทางตรง ได้แก่ค่าเงินบาท มีแนวโน้มอ่อนค่าหากทรัมป์ชนะเลือกตั้ง เนื่องจากนโยบายกีดกันทางการค้า และการปรับเพิ่มภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ อาจส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่า ,การส่งออกของไทยไปยังตลาดสหรัฐฯ อาจลดลง 3,106 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณ 10 8,714 ล้านบาท) คิดเป็น -1.03% ต่อการส่งออกรวม และ -0.59% ต่อ GDP สินค้ากลุ่มที่ได้รับผลกระทบสูง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรกล อาหารแปรรูปและเครื่องดื่ม ยานพาหนะ และยางและผลิตภัณฑ์ยาง เนื่องจากอัตราภาษีนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งการลงทุนโดยตรงจากสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลงเนื่องจากนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” และการสนับสนุนให้ย้ายฐานการผลิตกลับสหรัฐฯ ทำให้แรงจูงใจในการลงทุนในไทยลดลง
ส่วนผลกระทบทางอ้อม ได้แก่ การส่งออกวัตถุดิบในห่วงโซ่อุปทานจีน-สหรัฐฯ การขึ้นภาษีสินค้าจีนเป็น 60% อาจทำให้ไทยสูญเสียมูลค่าการส่งออกวัตถุดิบที่เชื่อมโยงกับจีนไปกว่า 1,403 ล้านดอลลาร์ฯ (ประมาณ 49,105 ล้านบาท) คิดเป็น -0.46% ของการส่งออกรวม และ -0.27% ของ GDP ,การส่งออกวัตถุดิบในห่วงโซ่อุปทานสหรัฐฯ-จีน หากจีนมีการตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ วัตถุดิบไทยที่เชื่อมโยงกับการส่งออกของสหรัฐฯ ไปจีนอาจลดลงอีก 75.8 ล้านดอลลาร์ฯ (ประมาณ 2,653 ล้านบาท) คิดเป็น -0.03% ของการส่งออกรวม และ -0.01% ของ GDP และการทะลักของสินค้าจีนเข้าสู่ตลาดไทย นโยบายขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ทำให้จีนอาจจำเป็นต้องหาตลาดใหม่ ซึ่งอาจส่งผลให้สินค้าจีนเข้ามาตีตลาดไทยมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเครื่องจักรกล เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า โลหะ และสิ่งทอ
นายวิเชียร กล่าวว่า อย่างไรก็ดี ไทยยังมีโอกาสส่งออกสินค้าเพื่อทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐฯ กล่าวคือ ไทยมีโอกาสในการขยายส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ แทนสินค้าจีน โดยเฉพาะในหมวดเครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้า ยางและผลิตภัณฑ์ยาง และของเล่น หากไทยสามารถปรับตัว และขยายการผลิตให้ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้