สถาบันวิจัยหูรุ่น (Hurun) ในเซี่ยงไฮ้ จีนแผ่นดินใหญ่ เปิดเผยการจัดอันดับประเทศ และเมืองที่มีมหาเศรษฐีร่ำรวยระดับโลกมากที่สุด ประจำปี 2024 หรือ Hurun Global Rich List 2024 โดยใช้มูลค่าความมั่งคั่ง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือตั้งแต่ 37 ล้านบาทขึ้นไปเป็นเกณฑ์ในการอันดับจำนวนมหาเศรษฐี
การจัดอันดับดังกล่าวทำการเก็บข้อมูลในช่วง 1 ปีผ่านมา เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2023 ถึง 15 มกราคม 2024 ปรากฎว่ามีมหาเศรษฐีที่มีความมั่งคั่ง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 37,000 ล้านบาทขึ้นไป เพิ่มขึ้น 167 คน ส่งผลรวมเป็นจำนวน 3,279 คน ทำให้มีมูลค่าความมั่งคั่งเฉพาะมหาเศรษฐีเหล่านี้ทั้งสิ้น 3.28 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 121.3 ล้านล้านบาท
รายงานดังกล่าว พบว่า สหรัฐอเมริกามีจำนวนมหาเศรษฐีระดับ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 109 คน จากจำนวนทั้งหมด 800 คน ประเทศจีนมีมหาเศรษฐีระดับดังกล่าวลดลง 155 คน แต่ยังคงเป็นประเทศที่มีมหาเศรษฐี 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐมากเป็นอันดับ 1 ของโลก มีจำนวนรวม 814 คน ขณะที่อินเดียมีมหาเศรษฐีระดับดังกล่าวรวม 271 ราย เพิ่มขึ้น 84 รายในปี 2023
สำหรับ 20 อันดับเมืองที่มีมหาเศรษฐีตั้งแต่ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 37,000 ล้านบาทขึ้นไป มีมากที่สุดในโลก ได้แก่ 1.นิวยอร์ก 119 คน 2. ลอนดอน 97 คน 3. มุมไบ 92 คน 4.ปักกิ่ง 91 คน 5.เซี่ยงไฮ้ 87 คน 6.เซินเจิ้น 84 คน 7.ฮ่องกง 65 คน 8.มอสโก 59 คน 9.นิวเดลี 57 คน 10.ซานฟรานซิสโก 52 คน 11.กรุงเทพมหานคร 49 คน 12.ไทเป 45 คน 13.ปารีส 44 คน 14.หางโจว 43 คน 15.สิงคโปร์ 42 คน 16.กว่างโจว 39 คน 17.จาการ์ตา 37 คน 18.จาการ์ตา 37 คน 19.ลอสแองเจลีส 31 คน และ 20.โซล 31 คน
ทั้งนี้ 20 อันดับประเทศที่มีมหาเศรษฐีระดับ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือตั้งแต่ 37,000 ล้านบาทขึ้นไปมากที่สุดในโลก ได้แก่ 1.จีน 814 คน 2.สหรัฐอเมริกา 800 คน 3.อินเดีย 271 คน 4.สหราชอาณาจักร 146 คน 5.เยอรมนี 140 คน 6.สวิตเซอร์แลนด์ 106 คน 7.รัสเซีย 76 คน 8.อิตาลี 69 คน
9.ฝรั่งเศส 68 คน 10.บราซิล 64 คน 11.แคนาดา 53 คน 12.ไทย 49 คน 13.อินโดนีเซีย 47 คน 14.ออสเตรเลีย 45 คน 15.ญี่ปุ่น 44 คน 16.สิงคโปร์ 42 คน 17.เกาหลีใต้ 37 คน 18.อิสราเอล 29 คน 19.สเปน 27 คน และอันดับสุดท้าย 20.สวีเดน 25 คน
ด้านสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) ซึ่งสังกัดธนาคารโลก เปิดเผยรายงานติดตามภาวะหนี้ทั่วโลกปี 2024 หรือ Global Debt Monitor กุมภาพันธ์ ปี 2024 พบว่า ประเทศไทยมีหนี้ทุกประเภทต่อมูลค่าเศรษฐกิจ จีดีพีของไทยในไตรมาสที่ 4 ปี 2023 อยู่ที่ 264.8% ต่อจีดีพี(ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสูงที่สุดในอาเซียน ประกอบด้วย หนี้ครัวเรือนที่ 91.6% หนี้บริษัทเอกชนที่ไม่ใช่สถาบันการเงินที่ 86.2% หนี้รัฐบาลที่ 54.2% (ไม่รวมหนี้รัฐวิสาหกิจ) และหนี้ภาคการเงินที่ 32.8%
ทั้งนี้ เทรดดิ้ง อีโคโนมิคส์ Trading Economics ได้รวบรวมข้อมูลหนี้ครัวเรือนทั้งหมด 45 ประเทศจากหลายภูมิภาคทั่วโลก พบว่า ปี 2023 ไทยมีหนี้ครัวเรือนมากเป็นอันดับ 7 ของโลก ที่ 91% ของจีดีดีประเทศ และมีมากที่สุดในอาเซียน
