ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดังระดับโลก เทมู (Temu) นั้น ได้รับการเปิดเผยจากทูตจีนประจำประเทศไทย ว่าได้เข้าหารือกับปลัดกระทรวงพาณิชย์ และอาสาจะเป็นตัวกลางในการเจรจากับเทมูผ่านสำนักงานกลางภูมิภาคของเทมู ซึ่งตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ จากความคืบหน้าล่าสุด พบว่าเทมูได้แสดงความต้องการที่อยากจะมาตั้งสำนักงานในประเทศไทย
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมผ่านมา นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ยอมรับว่าแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์เทมู (Temu) ของจีน ยังไม่เข้าข่ายต้องเสียภาษีในไทย เนื่องจากเทมูไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในประเทศไทย และยังไม่พบว่าทำการค้ากับผู้ขายสินค้าในประเทศไทย กรมสรรพากรได้ส่งอีเมลล์สอบถามไปยังแพลตฟอร์มเทมู เพื่อแจ้งให้ทราบว่า หากแพลตฟอร์มเทมูเข้าข่ายกฎเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษีในประเทศไทย บริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดังกล่าวก็ต้องเข้ามาจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามไม่เปิดเผยว่าทางแพลตฟอร์มเทมูได้ตอบกลับมาแล้วหรือไม่
อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ตามปกติแล้ว แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บภาษีได้ จะต้องเป็นแพลตฟอร์มที่มาจดทะเบียนผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทย ขณะนี้มีอยู่ในระบบกว่า 180 รายและต้องมีผู้ค้าสินค้าไทยมาทำการค้าขาวกับแพลตฟอร์มเหล่านั้น และมีการเก็บค่าดำเนินการต่างๆ เช่น ค่าคอมมิชชั่น
อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มเทมูยังไม่เข้าข่ายดังกล่าว เนื่องจาก ไม่ได้มีการตั้งถิ่นฐานสำนักงานในไทย และไม่ได้ทำการค้าขายกับพ่อค้าแม่ค้าภายในไทย ถึงแม้จะพบว่า มีผู้ซื้อสินค้าจากเทมูในปริมาณมาก แต่ก็ไม่สามารถไปตั้งข้อสันนิษฐานได้ว่าผู้ซื้อรายนั้น ซื้อมาเพื่อทำการขายต่ออีกทอด