รัฐบาลจีนส่งสัญญาณชัดเตรียมก่อหนี้ ตั้งงบขาดดุล ลดดอกเบี้ยในรอบ 14 ปี เตรียมเปิดรายละเอียดมีนาคมปี 2025 หวังรับมือสหรัฐกีดกันการค้าด้วยภาษีนำเข้า 60%

รัฐบาล จีน ส่งสัญญาณชัดเตรียมก่อหนี้ ตั้งงบขาดดุล ลดดอกเบี้ยในรอบ 14 ปี เตรียมเปิดรายละเอียดมีนาคมปี 2025 หวังรับมือสหรัฐกีดกันการค้าด้วยภาษีนำเข้า 60%

สำนักข่าวซีซีทีวี (CCTV) ซึ่งเป็นสำนักข่าวของรัฐบาลกลางประเทศจีน รายงานว่า สิ้นสุดการประชุม 2 วันของคณะกรรมการทำงานเศรษฐกิจส่วนกลาง หรือ CEWC สังกัดคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งชาติหรือโปลิสบูโร เมื่อวันที่ 11-12 ธันวาคมผ่านไป ได้ข้อสรุปว่า ในปี 2025 รัฐบาลจีนจะเพิ่มการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลมากขึ้น รัฐบาลจีนจะเพิ่มการออกพันธบัตร หรือกู้เงินเพิ่มขึ้นเพื่อระดมเงินทุน และธนาคารจีนจะผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นรวมถึงอัตราดอกเบี้ยสำคัญอื่นๆในระดับปานกลาง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ธนาคารกลางจีนจะตอบสนองนโยบายการผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยสำคัญต่างๆในรอบ 14 ปี ตื่นมาตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา

สาเหตุที่รัฐบาลจีนจะต้องดำเนินนโยบายและมาตรการเศรษฐกิจเชิงรุกดังกล่าวข้างต้นนั้นคณะทำงานชุดดังกล่าว CEWC เปิดเผยว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจซึ่งเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คาดไว้เป็นผลมาจากปัจจัยเศรษฐกิจภายนอกประเทศจีนที่เปลี่ยนแปลงมากขึ้นและหยั่งลึก

สำหรับมาตรการการออกพันธบัตรรัฐบาลจีน หรือการกู้หนี้นั้น จะเป็นนโยบายที่ต้องปฏิบัติทั้งรัฐบาลกลาง และรัฐบาลท้องถิ่นในทุกมณฑลของจีน เพื่อวัตถุประสงค์สำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจจีนและโลกเกิดการปรับตัวอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปในหลักการภาพรวมที่ได้จากการประชุมของคณะทำงานชุดนี้ จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดอย่างเป็นทางการ จนกระทั่งการประชุมประจำปีพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะมีขึ้นในเดือนมีนาคม 2025

นักวิเคราะห์ และนักเศรษฐศาสตร์ล้วนมีความเห็นตรงกันว่าการส่งสัญญาณของโปลิศบูโรในครั้งนี้ ล้วนเป็นการใช้นโยบายและมาตรการเพื่อตั้งรับกับการบริหารเศรษฐกิจของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคน 47 นายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งประกาศชัดเจนว่าหลังจากวันที่ 20 มกราคม 2025 นโยบายในการปกป้องและกีดกันการค้ากับประเทศจีนจะมีผลอย่างเป็นทางการ โดยการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสูงถึง 60% จากประเทศจีน

ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนในภาคอุตสาหกรรมในปัจจุบันทำการค้าส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาสูงมากถึงปีละ 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 13.6 ล้านล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเป็น ภาคเศรษฐกิจสำคัญที่จะได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวโดยเฉพาะบริษัททั้งภาคเอกชนของจีนได้ตัดสินใจโยกย้ายการผลิตไปยังประเทศอื่นๆที่อยู่ในเอเชียและอาเซียนเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการกีดกันทางการค้าอย่างรุนแรงของสหรัฐอเมริกา

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles