สมาคมค้าทองคำประกาศราคาทองคำในประเทศวันนี้ (21 พ.ค. 2567) ปิดตลาดการซื้อขาย ปรับลง 100 บาท ปรับราคาขึ้นลง 9 ครั้ง ส่งผลให้ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 41,400 บาท และขายออก 41,500.00 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 40,659.12 บาท และขายออก 42,000 บาท
ซึ่งทองคำในประเทศ อ้างอิงตลาดสปอตที่ 2,418.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และอิงค่าเงินบาท 36.29 บาท/ดอลลาร์ โดยภาพรวมราคาทองคํายังไม่สามารถขึ้นไปแตะจุดสูงสุดเดิมได้ จากค่าเงินบาทที่แข็งค่ากดดันราคาทอง
โดยราคาทองคําปรับตัวสูงขึ้น โดยขึ้นไปทําจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 2,450 ดอลลาร์ ก่อนจะถูกแรงเทขายทํากําไรกลับลงมาปิดที่ระดับ 2,427 ดอลลาร์ ภาพรวมราคาทองคํายังเป็นแนวโน้มทิศทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะยุติการขึ้นดอกเบี้ย และความตึงตัวของปัญหาภูมิรัฐศาสตร์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมถึงข่าวการเสียชีวิตของประธานาธิบดี ไรซี ของอิหร่าน ซึ่งส่งผลให้สถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางมีความเสี่ยงมากขึ้น นํามาสู่แรงเข้าซื้อทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ทําให้ภาพรวมราคาทองคําปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่เศรษฐกิจโลกดูเหมือนจะเข้าสู่สภาวะถดถอยในบางส่วนหรือ Stagflation คือ สภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว แต่เงินเฟ้อกลับพุ่ง ขณะที่การปรับลดดอกเบี้ยของเฟดยังคงมีความไม่แน่นอน และน่าจะคงตัวอยู่ในระดับสูง เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงพุ่งสูงอยู่
ขณะที่ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงโดยเมื่อวานเปิดที่ระดับ 104.50 จุด และเคลื่อนตัวในกรอบระหว่าง 104.40-104.65 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 104.66 จุด ด้านค่าเงินบาทเมื่อวานนี้มีบางช่วงหลุดระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์ลงไป ก่อนจะอ่อนค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 36.30 บาทต่อดอลลาร์ในเช้านี้ เรียกได้ว่า การเคลื่อนตัวของค่าเงินบาทค่อนข้างผันผวน และไม่สัมพันธ์กับดัชนีดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง อย่างไรก็ตาม ราคาทองคํายังคงอยู่ในสภาวะแนวโน้มทิศทางขาขึ้น โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะมีแนว รับอยู่ที่ระดับ 2,400 ดอลลาร์ และมีแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2,450 ดอลลาร์ ส่วนของราคาทองคำในไทย จะมีแนวรับระยะสั้นที่ 41,000 บาท และมีแนวต้านที่ 41,600 บาท ภาพรวมราคาทองคํายังไม่สามารถขึ้นไปแตะจุดสูงสุดเดิมได้ เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่ากดดัน