ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 77.16 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.12 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.4% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 2 วันรวมกัน +1.32 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.69% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 81.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.24 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.5% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 2 วันรวมกัน +1.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.51%
ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ปิดลดลง -3% และ -1% ตามลำดับ สิ้นสุดมิถุนายนราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น +5.9% ส่งผลตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐ และเบร็นท์ อังกฤษ ปิดเพิ่มขึ้น +13.8% และ +12.1% ตามลำดับ
สาเหตุจากยอดนำเข้าน้ำมันดิบจากจีนในครึ่งปีแรก พบว่า ลดลงมากถึง -11% นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจจีนมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเงินฝืดในเวลาอันใกล้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล นายเบนจามิน เนทันยาฮู เดินทางถึงสหรัฐอเมริกาเพื่อร่วมเจรจาข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐ กล่าวว่า ความพยายามในการเจรจาให้เกิดการหยุดยิงในดินแดนปาเลสไตน์กำลังใกล้ประสบความสำเร็จในอีกไม่ไกลนี้
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลง 50 สตางค์/ลิตร นับเป็นการลดราคาครั้งที่ 2 ต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคมผ่านมา หรือใน 15 วันผ่านมา ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่ถูกที่สุดในรอบ 1 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายนผ่านมา