นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมาย และหัวหน้ากลุ่มงานเลขานุการองค์กรและกำกับองค์กรในฐานะโฆษก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยมติคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯเห็นชอบในหลักการเรื่อง “มาตรการยกระดับความเชื่อมั่นเรื่อง short selling และ program trading รวมถึงมาตรการเพิ่มการเปิดเผยข้อมูลแก่สาธารณชน” ว่า ตลท.เตรียมออกมาตรใหม่เพิ่มเติม ภายหลังที่ได้รับความเห็นชอบในหลักการจากคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ( บอร์ด ตลท.) เมื่อวันที่ 21 ก.พ.67 ที่ผ่านมา โดยแบ่งตามเป้าหมายที่คาดหวังเป็น 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.มาตรการเกี่ยวกับการลดความผันผวนที่ผิดปกติของราคาหลักทรัพย์ , 2.มาตรการเกี่ยวกับการกำกับดูแลพฤติกรรมการซื้อขายที่ไม่เหมาะสม และ 3. มาตรการที่เป็นการเพิ่มความคุ้มครองผู้ลงทุน
บางมาตรการที่สามารถบังคับใช้ได้เร็ว โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนและมีผลบังคับใช้ได้ภายในช่วงไตรมาส 2/67 จำนวน 3 เรื่องดังนี้
1.ทบทวนหลักทรัพย์ที่ short sell ได้ ซึ่งจะทำให้จำนวนหุ้นที่ short sell ลดลงเหลือประมาณ 231 หลักทรัพย์ จากเดิมที่ 292 หลักทรัพย์ 2.การเพิ่มบทระวางโทษปรับเป็นเงินสำหรับบริษัทสมาชิก และ 3.การเปิดเผยข้อมูลลูกค้าที่ส่งคำสั่งไม่เหมาะสมแก่บริษัทสมาชิกทุกราย
ด้านการเพิ่มมาตรการซื้อขายแบบ Auction (เปิดจับคู่ซื้อขายวันละ 3 รอบ ) สำหรับหุ้นที่อยู่ในมาตรการกำกับการซื้อขายและการเพิ่ม Circuit Breaker รายหุ้นที่ +/- 10% ของราคาซื้อขายล่าสุด หรือที่เรียกว่า Dynamic price band เพื่อไม่ให้ราคาผันวนเร็วเกินไป รวมถึงการเพิ่ม Auto halt รายหุ้น กรณีมีจำนวนหุ้นรวมในคำสั่ง > x% ของ Free float shares เพื่อป้องกันการจับคู่ของคำสั่งซื้อขายที่อาจผิดปกติ เบื้องต้นคาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในครึ่งหลังปีนี้ เนื่องจากมาตรการบางส่วนต้องมีการปแก้ไขหลักเกณฑ์และทดลองระบบกับสมาชิกด้วย
ด้านการยกระดับการตรวจสอบโดยจัดให้มี Central Platform ในการ Check หลักทรัพย์ก่อนขาย เพื่อใช้เป็นแหล่งข้อมูลกลางสำหรับบริษัทสมาชิกและตลาดหลักทรัพย์ฯในการตรวจสอบการมีอยู่ของหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนก่อนขายนั้น ยอมรับว่าอาจต้องใช้เวลาในการพัฒนาระบบ ซึ่งยังต้องใช้เวลากว่ามีผลบังคับใช้อยู่พอสมควร
อย่างไรก็ตามสำหรับขั้นตอนในการออกกฎเกณฑ์ของ ตลท.นั้น ภายหลังจากการเสนอหลักการต่อคณะกรรมการ ตลท. เพื่อพิจารณาอนุมัติแล้ว จะมีการหารือผู้ที่เกี่ยวข้อง (Stakeholders) และจัดทำร่างกฎเกณฑ์รับฟังความคิดเห็น (Hearing) ก่อนขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หลังจากได้รับความเห็นชอบแล้ว จึงจะประกาศบังคับใช้กฎเกณฑ์ต่อไป
“บางมาตรการเราอาจจะทำได้ทันที แต่บางมาตรการก็จำเป็นต้องมีการพัฒนาปรับปรุงระบบ เพื่อให้รองรับกับเรื่องนี้ ก็อาจจะต้องใช้เวลา หากทำได้เราอยากทำให้เร็วที่สุดทุกมาตรการอยู่แล้ว แต่แต่ละมาตรการมีวิธีการและขั้นตอนที่แตกต่างกัน เช่น อะไรที่เป็นเพียงแก้เกณฑ์ อย่างการปรับคุณสมบัติของหุ้น หรือ กรณีการลงโทษปรับ แค่แก้เกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ ทำ Hearing อันนี้ไม่ต้องไปปรับระบบอะไร อันนี้ทำได้เร็ว แต่หากต้องมีการแก้เกณฑ์และไปปรับระบบ ต้องดูความพร้อมของสมาชิก อันนี้อาจจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการ” นายรองรักษ์ กล่าว
นายรองรักษ์ กล่าวต่อว่านอกจากนี้ ตลท. ยังเตรียมหารือกับสำนักงาน ก.ล.ต. ในการแก้ไขพรบ.หลักทรัพย์ฯ เพื่อเปิดช่องให้มีบทลงโทษกับผู้ลงทุนที่ทำ Naked Short Selling ได้ เนื่องจากปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯมีอำนาจแค่ลงโทษได้เฉพาะบริษัทสมาชิกเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถลงโทษไปถึงตัวบุคคลได้จึงทำให้ผู้กระทำความผิดอาจไม่เกรงกลัว อย่างไรก็ตามหากจะสามารถดำเนินการได้ต้องไปแก้กฎหมายหลักทรัพย์ฯก่อน
