วอลท์ ดิสนีย์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจบันเทิงและสวนสนุกชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกาโดยมีอายุมาถึงปัจจุบัน 102 ปี เปิดเผยว่าได้ประกาศแผนการลงทุนและก่อสร้างสวนสนุกดิสนีย์แลนด์แห่งใหม่ในประเทศสหรัฐ อาหรับ เอมิเรตส์ หรือยูเออี โดยจะทำการก่อสร้างสวนสนุกดิสนีย์ดังกล่าวนับเป็นแห่งที่ 7 ในโลก และเป็นแห่งแรกในภูมิภาคตะวันออกกลางที่เกาะยาส ในกรุงอาบูดาบี สวนสนุกดิสนีย์ดังกล่าวถือเป็นการลงทุนและก่อสร้างครั้งแรกของวอลท์ ดิสนีย์ ในรอบเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา
สำหรับการลงทุนและก่อสร้างสวนสนุกดิสนีย์ในครั้งนี้ จะเป็นการร่วมมือกับบริษัทที่มีชื่อว่ากลุ่มบริษัทไมราล หรือ Miral Group ซึ่งเป็นกลุ่มยักษ์ใหญ่ในธุรกิจพัฒนาบันเทิงและการพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดูไบ จะรับผิดชอบการพัฒนาในเกาะยาสนั้น จะทำหน้าที่ในการจัดการด้านการเงิน ก่อสร้าง และดำเนินงานดิสนีย์รีสอร์ทบนเกาะดังกล่าว
การก่อสร้างสวนสนุกดิสนีย์ในประเทศยูเออีจะตั้งอยู่บนเกาะยาส ซึ่งเกาะดังกล่าวเป็นจุดหมายปลายทาง และศูนย์กลางของแหล่งสวนสนุกบันเทิง สวนน้ำขนาดใหญ่ และธุรกิจค้าปลีกระดับโลก ในปัจจุบันบนเกาะยาสประกอบไปด้วย เฟอรารี่ เวิลด์ อาบู ดาบี, วอร์เนอร์ บราเดอร์ เวิลด์ ยาส ไอส์แลนด์, ซีเวิลด์ ยาส ไอส์แลนด์ และยาส วอเตอร์ เวิลด์ อาบูดาบี
นายจอร์จ ดี อามาโร ประธานกลุ่มสร้างสรรค์ประสบการณ์ วอลท์ ดิสนีย์ กล่าวว่า วอลท์ ดิสนีย์ มีความสนใจอย่างสม่ำเสมอสำหรับในภูมิภาคตะวันออกกลาง เพื่อที่จะนำเรื่องราวและตำนานของวอลท์ ดิสนีย์ มาถ่ายทอดให้กับบรรดาแฟนคลับที่เป็นคนรุ่นใหม่ กรุงอาบูดาบีเป็นสถานที่ในอุดมคติของวอลท์ ดิสนีย์ สำหรับวันที่จะเปิดให้บริการของสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ในประเทศยูเออีนั้นยังมีการกำหนดไว้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม สวนสนุกใหม่แห่งนี้ จะใช้เวลา 1-2 ปีในการออกแบบ และ อีกสี่ถึงหกปีสำหรับการก่อสร้าง
สำหรับรูปแบบในการลงทุนและทำธุรกิจสวนสนุกดิสนีย์บนเกาะยาสในประเทศยูเออีในครั้งนี้ นายบ๊อบ ไอเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ วอลท์ ดิสนีย์ เปิดเผยว่ารายได้จะมาจากค่ารอยัลตี้ ซึ่งคิดอยู่บนรายได้ของสวนสนุกดิสนีย์แลนด์บนเกาะยาส สำหรับเหตุผลสำคัญในการสร้างสวนสนุกดิสนีย์แลนด์แห่งแรกในตะวันออกกลางที่ประเทศยูเออีเนื่องจาก จำนวนประชากรราวหนึ่งในสาม ของประชากรทั่วโลก อาศัย อยู่ในระยะทางการบินสามถึง 4 ชั่วโมงเพื่อไปถึงประเทศยูเออี และในภูมิภาคดังกล่าวมีตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าไปถึงมากกว่า 500 ล้านคน
ปัจจุบัน กรุงอาบูดาบี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศสหรัฐ อาหรับ เอมิเรตส์ หรือยูเออี มีประชากร 2.5 ล้านคน แต่เกาะยาร์ดมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวสูงมากกว่า 34 ล้านคนในปี 2023 ผ่านไป ซึ่งเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 38% เมื่อเทียบกับในปี 2022
นอกจากนี้ ในปี 2024 ที่ผ่านมาได้ รัฐบาลยูเออีประกาศแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นมูลค่ากว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 330,000 ล้านบาท เพื่อทำให้ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่อง สนามบินนานาชาติในดูไบได้กำหนดเป้าหมายในการจะเพิ่มความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 120 ล้านคนภายในปีหน้า 2026 นี้
